หุ้นไทยปิดพุ่ง 14.40 จุด ขานรับสถานการณ์โควิดในปท.คลายตัว-คาดหวังยาต้านโควิดใหม่

SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,619.57 จุด เพิ่มขึ้น 14.40 จุด (+0.90%) มูลค่าการซื้อขายราว 43,556 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯเผยตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวขึ้นได้ดีกว่าตลาดภูมิภาค โดยตลาดในเอเชียเหนือต่างติดลบหลังขึ้นไปมาก ซึ่งตลาดหุ้นญี่ปุ่นรอดูนโยบายของนายกฯ-ยังกังวลเรื่อง”ไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป”หลังตลาดหุ้นฮ่องกงสั่งระงับการซื้อขายในวันนี้ เนื่องจากบริษัทผิดนัดชำระหนี้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่วนตลาดบ้านเราได้แรงหนุนจากโควิดในประเทศคลายตัว-คาดหวังยาต้านโควิดตัวใหม่หลัง”เมอร์ค แอนด์ โค” ซึ่งเป็นบริษัทยารายใหญ่ของสหรัฐ เตรียมยื่นเรื่องต่อ FDA ขอใช้ยาตัวใหม่”โมลนูพิราเวียร์”ในกรณีฉุกเฉิน นอกจากนี้ราคาน้ำมัน-ถ่านหินปรับขึ้นหนุนกลุ่มพลังงานด้วย บ่ายนี้ตลาดฯคงจะแกว่งไซด์เวย์ โดยมีแนวรับ 1,610 แนวต้าน 1,620 จุด

  • ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,619.57 จุด เพิ่มขึ้น 14.40 จุด (+0.90%) มูลค่าการซื้อขายราว 43,556 ล้านบาท
  • การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดช่วงเช้า โดยทำระดับสูงสุด 1,619.62 จุด และระดับต่ำสุด 1,610.96 จุด

นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวขึ้นได้ดีกว่าตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยตลาดในเอเชียเหนือต่างปรับตัวลงกันหลังขึ้นไปมากแล้ว ส่วนตลาดหุ้นญี่ปุ่นก็รอดูนโยบายของนายกรัฐมนตรีคนใหม่ และยังกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ของบริษัทไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป หลังจากตลาดหุ้นฮ่องกงสั่งระงับการซื้อขายในวันนี้ เนื่องจากบริษัทผิดนัดชำระหนี้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

ทั้งนี้ตลาดบ้านเราได้รับแรงหนุนจากสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในประเทศที่คลายตัวลงตามลำดับ และยาต้านโควิดตัวใหม่ของ “เมอร์ค แอนด์ โค” ซึ่งเป็นบริษัทยารายใหญ่ของสหรัฐ ที่เตรียมยื่นเรื่องต่อสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐ (FDA) เพื่อขออนุมัติการใช้ยาตัวใหม่ โมลนูพิราเวียร์ (molnupiravir) ในกรณีฉุกเฉิน หลังการทดลองทางคลินิกได้ผลเป็นที่น่าพึงพอใจ ทำให้บรรยากาศการลงทุนสดใส และทำให้หุ้นในกลุ่ม Reopening ปรับตัวขึ้นเด่นวันนี้ อย่างหุ้น AOT, MINT เป็นต้น

นอกจากนี้ ราคาน้ำมัน และราคาถ่านหินที่ปรับตัวขึ้น ก็มาช่วยหนุนหุ้นในกลุ่มพลังงานให้ปรับตัวตัวขึ้นได้ด้วย อย่างไรก็ดี ยังต้องติดตามความคืบหน้าจากศบค., ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯที่จะออกมาในวันศุกร์นี้ และการประชุมกลุ่มโอเปกพลัสในวันนี้

แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายณัฐพล กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งไซด์เวย์ โดยมีแนวรับ 1,610 จุด ส่วนแนวต้าน 1,620 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

AOT มูลค่าการซื้อขาย 2,239.77 ล้านบาท ปิดที่ 63.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาท

GULF มูลค่าการซื้อขาย 2,186.01 ล้านบาท ปิดที่ 43.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท

BANPU มูลค่าการซื้อขาย 1,959.53 ล้านบาท ปิดที่ 13.30 บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาท

TRUE มูลค่าการซื้อขาย 1,272.40 ล้านบาท ปิดที่ 3.94 บาท เพิ่มขึ้น 0.18 บาท

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,244.98 ล้านบาท ปิดที่ 134.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 ต.ค. 64)

Tags: , ,
Back to Top