สธ. วางมาตรการรับมือผู้ป่วยโควิดภาคใต้เพิ่มขึ้น ตั้งเป้าคุมได้ใน 1-2 เดือน

นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงสถานการณ์โควิด-19 ในเขตสุขภาพที่ 12 โดยเฉพาะ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ ยะลา ปัตตานี นราธิวาส สงขลา พบว่าเขต 12 มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็น 1,900 -2,000 รายต่อวัน จากไวรัสสายพันธุ์เดลตา สวนทางกับสถานการณ์ผู้ติดเชื้อของประเทศที่เริ่มลดลง สาเหตุหลักจากการจัดกิจกรรมรวมกลุ่ม ส่วนใหญ่เป็นการติดเชื้อในบ้านและชุมชน ไม่พบการระบาดเป็นคลัสเตอร์ใหญ่

ดังนั้น จึงได้เน้นย้ำให้พื้นที่เตรียมมาตรการควบคุมโรคที่ชัดเจน ทั้งมาตรการส่วนบุคคล สื่อสารให้ประชาชนป้องกันตนเองขั้นสูงสุด (Universal Prevention) มาตรการสังคม โดยใช้กลไกของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ให้ลดการรวมกลุ่ม, ตั้ง COVID-19 Free Setting Area, ประชาชนกลุ่มเสี่ยงต้องเข้าถึงการตรวจด้วยชุดตรวจ ATK เพื่อจะได้ทราบผลเร็ว แยกผู้ป่วยออกจากชุมชนได้เร็ว และให้โรงพยาบาลเตรียมเตียงสำหรับผู้ป่วยที่มีอาการปานกลางถึงอาการหนักทั้ง ICU โควิด, หอผู้ป่วยโควิด, ห้องความดันลบ, จัดหาเครื่องผลิตออกซิเจนเพิ่มขึ้น และให้เตรียมโรงพยาบาลสนามไว้รองรับผู้ป่วยที่ไม่มีอาการ และอาการน้อย เตรียมระบบ HI/CI ไว้รองรับหากมีจำนวนผู้ป่วยที่มากขึ้นเพื่อให้เข้าถึงกระบวนการรักษาได้เร็วขึ้น รวมถึงเร่งรัดการฉีดวัคซีนโดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยงให้มีความครอบคลุมยิ่งขึ้น เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันลดป่วยหนัก ลดเสียชีวิต

โดยกระทรวงสาธารณสุข ได้จัดส่งยาและเวชภัณฑ์ ไปยังเขตสุขภาพที่ 12 ได้แก่ ยาฟาวิพิราเวียร์ 1,000,000 เม็ด, ชุดตรวจ ATK 20,000 ชุด, Oxygen concentrator 100 เครื่อง, วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า 25,000 โดส และวัคซีนไฟเซอร์ 100,000 โดส เพื่อรองรับการป้องกันควบคุมโรค และเตรียมการรักษาในพื้นที่

ด้านนพ.สุเทพ เพชรมาก ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ได้ตั้งเป้าหมายควบคุมสถานการณ์ในเขตสุขภาพที่ 12 ให้ได้ภายใน 1- 2 เดือน โดยลดจำนวนผู้ติดเชื้อประมาณ 10% ต่อสัปดาห์

สำหรับการเตรียมการดูแลรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ขณะนี้ จังหวัดยะลามีเตียงรองรับในโรงพยาบาลรัฐ 9 แห่ง โรงพยาบาลเอกชน 1 แห่ง รวม 1,162 เตียง เป็นเตียงผู้ป่วยสีแดง 86 เตียง และผู้ป่วยสีเหลือง 1,076 เตียง มีโรงพยาบาลสนามแล้ว 9 แห่ง รวม 2,385 เตียง ส่วนจังหวัดปัตตานีมีเตียงผู้ป่วยโควิด 19 รวม 4,100 เตียง เป็นโรงพยาบาลชุมชน 647 เตียง โรงพยาบาลทั่วไป 216 เตียง ฮอสพิเทล 3 แห่ง 557 เตียง โรงพยาบาลเอกชน 1 แห่ง 58 เตียง โรงพยาบาลทหาร 1 แห่ง 10 เตียง และโรงพยาบาลสนามอำเภอ 2,612 เตียง โดยได้ยกระดับโรงพยาบาลสนาม ให้สามารถดูแลผู้ป่วยกลุ่มสีเหลือง และให้ออกซิเจนได้เช่นเดียวกับโรงพยาบาลบุษราคัม

สำหรับภาพรวมทั้งเขตสุขภาพ ขณะนี้ใช้เตียงผู้ป่วยกลุ่มสีแดงไปแล้ว 80% สีเหลืองและเขียว 70-80% คาดว่ายังสามารถรองรับผู้ป่วยได้ และหากมีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้น จะสามารถส่งต่อและดูแลได้ภายในเขตสุขภาพ

ด้านนายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม แสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนใต้ ที่พบผู้ป่วยรายใหม่ 1,922 คน แบ่งเป็น จ.ปัตตานี 309 คน สงขลา 666 คน นราธิวาส 501 คน และยะลา 446 คน และยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยได้สั่งการให้ นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมคณะ ลงพื้นที่เพื่อติดตามสถานการณ์ และตั้งเป้าให้ควบคุมการระบาดภายใน 1-2 เดือน โดยคาดว่าจะลดจำนวนผู้ติดเชื้อ 10% ต่อสัปดาห์

พร้อมวางมาตรการสังคมใช้กลไกคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด เพื่อลดการรวมกลุ่ม ตั้ง COVID-Free Setting Area อีกทั้ง ประชาชนกลุ่มเสี่ยงต้องเข้าถึง ชุดตรวจ ATK ได้ง่าย พร้อมทั้งให้โรงพยาบาลเตรียมเตียงสำหรับผู้ป่วยที่มีอาการปานกลางถึงหนักไว้รองรับอีกด้วย

นายธนกร กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข ยังได้เร่งดำเนินการในการจัดส่งยาและเวชภัณฑ์ไปในพื้นที่แล้ว ได้แก่ ยาฟาร์วิพิราเวียร์ 1 ล้านเม็ด ชุดตรวจ ATK 20,000 ชุด Oxygen concentrator 100 เครื่อง วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า 25,000 โดส วัคซีนไฟเซอร์ 100,000 โดส

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีขอให้ประชาชนใน 4 จังหวัดชายแดนใต้ ป้องกันตัวเองแบบสูงสุด (Universal Prevention) แม้ว่าจะมีการปรับมาตรการของ ศบค. ให้ผ่อนคลายกิจกรรม/กิจการต่างๆ แล้วก็ตาม แต่มั่นใจว่า ด้วยการสนับสนุนทีมแพทย์ บุคลากร เวชภัณฑ์ และความร่วมมือของประชาชนในพื้นที่ สถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่ 4 จังหวัดภาคใต้จะคลี่คลายโดยเร็ว และช่วงนี้ฝนตกบ่อยจึงขอให้พี่น้องประชาชนได้ระวังป้องกันโควิด-19 ด้วย อย่าการ์ดตก

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 ต.ค. 64)

Tags: , , , , , ,
Back to Top