SVT ชนซีลลิ่ง 29.94% มาแรงท้ายตลาด หลังเทรดวันแรกยืนเหนือจอง

หุ้น SVT ปิดพุ่งชนซีลลิ่ง 29.94% มาที่ 4.60 บาท เพิ่มขึ้น 1.06 บาท มูลค่าซื้อขาย 5,203.86 ล้านบาท โดยเปิดตลาด 3.60 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 4.60 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 3.56 บาท

ทั้งนี้ หุ้น บมจ.ซันเวนดิ้ง เทคโนโลยี (SVT) เข้าเทรดวันแรกเมื่อวานนี้ปิดเหนือจองที่ราคา 3.54 บาท จากราคา IPO ที่ 2.54 บาท หรือสูงขึ้น 39.37%

ขณะที่วานนี้นางอาภัสรา ภาณุพัฒนา กรรมการผู้อำนวยการ SVT เปิดเผยว่า แผนงานในปี 65 บริษัทตั้งเป้ารายได้จะสามารถเติบโตที่ 25% จากปีนี้คาดว่าจะมีรายได้ราว 2,000 ล้านบาท โดยจะได้รับปัจจัยหนุนจากการนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ไปขยายตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติอย่างต่อเนื่อง ก่อนที่จะเพิ่มครบตามเป้าหมายที่วางไว้ 20,000 ตู้ เป็นเครื่องอัตโนมัติประเภทที่รองรับเงินสด และการชำระผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ 15,000 เครื่อง (ตู้ smart) ในปี 65

นอกจากนี้ยังมีแผนการขยายศูนย์กระจายสินค้าเพิ่มเติมอีก 3 สาขาในภาคเหนือที่จังหวัดลำพูน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดอุดรธานี และภาคใต้ ที่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา รวมทั้งแผนการขยายไปยังธุรกิจ Franchise เพื่อขยายการให้บริการขายสินค้าผ่านตู้ครอบคลุมทั่วประเทศ

ทั้งนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรท้องถิ่นเพื่อขยายเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติในประเทศเวียดนามภายในระยะเวลา 2 ปี เนื่องจากเป็นประเทศที่มีจำนวนประชากรมาก และมีการเติบโตของเศรษฐกิจในระดับสูง โดยหากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 บริษัทก็พร้อมที่จะเข้าไปขยายธุรกิจทันที

ขณะที่บทวิเคราะห์ของ บล.ทิสโก้ ระบุว่า จากประมาณการเบื้องต้นของเรา มูลค่าที่เหมาะสมของ SVT ในปี 65 อยู่ที่ 3.08 บาท (เทียบกับบริษัทในอุตสาหกรรมที่มีกำไร และมีมูลค่าตลาดต่ำกว่า 1 หมื่นล้านบาทเดียวกันโดยใช้ข้อมูลเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี ที่ 23 เท่า) จากคาดบริษัทมีผลการดำเนินงานเติบโตเฉลี่ยในปี 64-66 ที่ 33.65% หนุนโดยการขยายบริการเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ ซึ่งนอกจากจะช่วยในด้านการเพิ่มรายได้แล้ว ยังช่วยหนุนอัตรากำไรจากการประหยัดต่อขนาด ประกอบกับสถานการณ์การระบาดที่คาดว่าจะดีขึ้นในปี 65 ช่วยหนุนการฟื้นตัวของรายได้จากจุดบริการในพื้นที่เปิดต่างๆ และยังช่วยหนุนรายได้จากค่าโฆษณาบนเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติแบบ smart

นอกจากนี้ จากการหาพันธมิตรทางการค้า, การขายแฟรนไชส์เครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ และแผนที่จะขยายบริการเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติสู่ CLMV ของบริษัทจะช่วยหนุนผลการดำเนินงานแก่บริษัทในอนาคต สำหรับความเสี่ยงที่ต้องระวังของ SVT คือ การเข้ามาของคู่แข่งรายใหม่ และการแข่งขันที่รุนแรงเนื่องจากสินค้าและบริการของบริษัทสามารถถูกทดแทนได้สูง ซึ่งอาจกดดันทั้งในด้านของรายได้และอัตรากำไร

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 ต.ค. 64)

Tags: , ,
Back to Top