CryptoShot: SHIB มาแรงสัปดาห์เดียวพุ่ง 110% !!

เกาะกระแสความร้อนแรงกับเหรียญมีม (Meme Token) สุดฮอตเวลานี้อย่าง “SHIBA INU Coin” ภายหลังจากราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างร้อนแรงตามรอยเหรียญมีมน้องหมาชิบะรุ่นพี่ที่ถูกสร้างขึ้นมาก่อนหน้านี้อย่าง “Dogecoin” เหรียญดวงใจที่ “Elon Mask” ชอบสร้างกระแสบนโลกโซเชียลอยู่บ่อยครั้ง *วาฬ แห่เข้า “SHIBA INU” ดันราคาพุ่ง

ติดตามกับเหรียญมีม (Meme Token) หรือโทเคนที่ไม่มีวัตถุประสงค์หรือไม่มีสิ่งใดรองรับ จากก่อนหน้านี้การเคลื่อนไหวของราคาขึ้นอยู่กับกระแสในโลกโซเชียลอย่าง Dogecoin กันดีแล้ว แต่ครั้งนี้จะมาเจาะเหรียญมีมน้องหมาอีกเหรียญหนึ่งที่ชื่อว่า “SHIBA INU Coin” ซึ่งมีตัวย่อว่า “SHIB” ซึ่งมีโลโก้เป็นน้องหมาชิบะหน้าตาน่ารักคล้ายกับ Dogecoin แต่มีสีสันที่เด่นชัดก็คือสีแดง เป็นเหรียญ “Gov Token” ของ “Shibaswap” แพลตฟอร์มที่ให้บริการทางการเงินแบบกระจายศูนย์บนโลก DeFi

ล่าสุด มีข่าวว่ามีผู้ลงทุนรายใหญ่ (วาฬ) ได้เข้าไปซื้อเหรียญ “SHIBA INU” โดยไม้แรกเข้าซื้อเมื่อวันที่ 30 ก.ย.2564 จำนวน 6 ล้านล้านโทเคน เทียบเท่าประมาณ 1,470 ล้านบาท และทยอยซื้อเพิ่มอีกครั้งในวันเสาร์ที่ 2 ต.ค.2564 อีก 3 ไม้ รวมกว่า 276,000 ล้านโทเคน และด้วยแรงซื้อของวาฬผลักดันราคาเหรียญ Shiba Inu ปรับตัวขึ้นสูงอย่างต่อเนื่อง สะท้อนได้จากการเคลื่อนไหวของราคาในรอบสัปดาห์นี้ แค่วันจันทร์ที่ 4 ต.ค.2564 เพียงวันเดียวราคาพุ่งไปกว่า 83% !!

เหตุการณ์ดังกล่าวมีเสียงสะท้อนจาก Influencer ตั้งสมมุติฐานและข้อสังเกตการเคลื่อนไหวของราคาว่า “Shibaswap” แพลตฟอร์ม Decentralized Protocol นี้อาจกำลังซ่อนข่าวดี ดีลกับพันธมิตรกับเจ้าใหญ่ หรือว่าอาจจะมี Product ออกใหม่ ทำให้เหล่าวาฬพากันแห่เข้าซื้อเพื่อเก็งกำไรล่วงหน้าหรือไม่ ??

แม้ราคาของเหรียญ SHIBA INU จะมีการปรับตัวขึ้นแรงเรื่อย ๆ แต่ก็ยังไม่สามารถทุบสถิติสูงสุดใหม่ ATH (All Time High) ได้สำเร็จจากที่เคยทำไว้เมื่อ 11 พ.ค. ที่ผ่านมาที่ราคา 0.0000379 ดอลลาร์สหรัฐฯ

IMF ห่วงเสถียรภาพการเงินถูกสั่นคลอนด้วยคริปโทฯ

ล่าสุด กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (International Monetary Fund:IMF) ออกรายงานเกี่ยวกับ Cryptocurrency มองเป็นความท้าทายใหม่ต่อโลกการเงิน โดยเนื้อหาใจความสำคัญของรายงานฉบับนี้ IMF ได้ออกมาเตือนว่า “Cryptocurrency” จะลดอำนาจของธนาคารกลาง (Central Bank) และนโยบายทางการเงิน และยังอาจจะเป็นช่องทางการฟอกเงิน การที่เงินไหลออกนอกประเทศ และการหลีกเลี่ยงภาษีต่าง ๆ รวมถึงแนวโน้มการเติบโตและการสำรองเงินของ “Stable Coin” ต่าง ๆ ด้วยไม่ว่าจะเป็น USDT, BUSD, USDC เป็นต้น

ขณะเดียวกัน IMF ได้แนะนำให้ธนาคารกลางของแต่ละประเทศ เตรียมรับมือกับการมาถึงของ Cryptocurrency รวมถึงการออกเกณฑ์ควบคุมให้เหมาะสม รวมถึงผลักดันการใช้งาน CBDC (Central Bank Digital Currency) มาต่อยอดพัฒนาการชำระเงินต่อไป

Velo Labs เซ็น MOU กับ Six Network เปิดมิติสู่โลก Defi เต็มตัว

“Velo Labs” คือ Financial Protocol คือการให้บริการโอนเงินระหว่างประเทศ ในระดับองค์กรผ่านการทำงานของ Smart Contract ที่มีเป้าหมายเพื่อสร้างเครือข่ายธุรกรรมทางการเงินสามารถโอนเงินได้เร็วขึ้นด้วยต้นทุนที่ถูกลง

“Six Network” เจ้าของแพลตฟอร์ม DeFi ชื่อดังอย่าง “Definix” แพลตฟอร์มการจัดการการลงทุนที่ให้บริการซื้อ ขาย แลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัล และการทำ Yield Farming

โดยทั้ง 2 โปรเจ็คต์นี้เป็นของคนไทย มีผู้ก่อตั้ง “Velo Lab” ก็คือนายชัชวาลย์ เจียรวนนท์ และ “Six Network” ของนายณัฐวุฒิ พึงเจริญพงศ์ (หมู) CEO Oakbee

ล่าสุด ได้เซ็น MOU เพื่อร่วมกันพัฒนาสร้างสะพาน หรือ “Bridge” ที่เชื่อมต่อบล็อกเชนเข้าด้วยกัน ทำให้สามารถโอน “Velo Token” ระหว่างเครือข่ายบล็อกเชน เปิดโอกาสให้คนได้เข้าถึงและใช้งาน Velo Token ด้วย

และความร่วมมือครั้งนี้เป็นเพียงก้าวแรกของ “Velo Labs” สู่ระบบการเงินแบบไร้ศูนย์ หรือ Decentralized Finance อย่างเต็มรูปแบบ ต้องรอติดตามกันต่อไปว่า “Velo Labs” จะมีผลิตภัณฑ์ใดมาให้ได้ลองใช้งานในอนาคต

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 ต.ค. 64)

Tags: , , , , , , , ,
Back to Top