ศบค.พบผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ 10,111 ราย ATK 1,700 ตาย 63 ราย

ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 10,111 ราย ประกอบด้วย

  • ผู้ติดเชื้อในประเทศจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 9,718 ราย
  • จากการค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน 328 ราย และจากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 41 ราย
  • ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ 24 ราย
  • ส่วนผู้ติดเชื้อเข้าข่ายด้วยการตรวจ ATK 1,700 ราย
  • เสียชีวิต 63 ราย

สำหรับจำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมในประเทศตั้งแต่ต้นปี 63 จนถึงล่าสุดอยู่ที่ 1,793,812 ราย โดยมีผู้ป่วยรักษาหายแล้วเพิ่มขึ้น 10,612 ราย ยอดเสียชีวิตสะสมเพิ่มเป็น 18,336 ราย

จังหวัดที่มีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงสุด 10 อันดับแรก ได้แก่ กรุงเทพมหานคร 1,046 ราย, ยะลา 756 ราย, นครศรีธรรมราช 615 ราย, สงขลา 579 ราย, ปัตตานี 502 ราย, นราธิวาส 466 ราย, ระยอง 402 ราย, ชลบุรี 354 ราย, เชียงใหม่ 314 ราย และ สมุทรปราการ 247 ราย

พญ.สุมนี วัชรสินธิ์ ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารความเสี่ยงฯ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า สถานการณ์การติดเชื้อในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีแนวโน้มลดลง แต่จังหวัดชายแดนใต้ยังเพิ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ

นอกจากนี้ ยังพบคลัสเตอร์ต่างๆในหลายจังหวัด ทั้งในแคมป์ก่อสร้าง ที่จันทบุรี ระยอง ในสหกรณ์กองทุนสวนยาง ที่ชลบุรี ในล้งผลไม้ ที่จันทบุรี และงานศพ ลำพูน ขอนแก่น เลย สระแก้ว กาญจนบุรี

พญ.สุมนี กล่าวว่า ในวันนี้ ศูนย์ปฏิบัติการ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศปก.ศบค.) ได้มีการหารือการเปิดประเทศจากหลายๆหน่วยงาน ศบค. กระทรวงสาธารณสุข นักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญ มีการหารือกับภาคธุรกิจและสถานประกอบการ อาจจะไม่มีรูปแบบที่ดีที่สุดหรือสมบูรณ์ที่สุด แต่ต้องดำเนินกิจการไปได้บนพื้นฐานที่ต้องทำให้ประชาชนปลอดภัย และทำให้ระบบสาธารณสุขมีความมั่นคง

สำหรับการเปิดเที่ยวบินนั้น ในบางประเทศยังไม่อนุญาตให้คนในประเทศนั้นออกนอกประเทศ แต่เป็นการอำนวยความสะดวกให้กับไทยในประเทศนั้นๆ สามารถเดินทางกลับบ้านสะดวกขึ้น แต่ต้องปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเข้มงวด ซึ่งศบค.ได้มีการวางแผนเตรียมความพร้อม 3 ด้าน ประกอบด้วย สถานการณ์แพร่ระบาดต้องคงตัว ต้องพิจารณาขีดความสามารถสาธารณสุข ทั้งในเรื่องป้องกัน การควบคุมและการรักษาและเรื่องพื้นที่นำร่อง ใน 17 จังหวัด ต้องมีการฉีดวัคซีนครอบคลุม 70% และการเปิดประเทศต้องค่อยเป็นค่อยไป รวมถึงต้องอยู่ภายใต้มาตรการหลัก Covid Free Setting

ส่วนแนวทางการรับผู้เดินทางเข้าราชอาณาจักรแบบไม่กักตัวและไม่กำจัดพื้นที่ ประกอบด้วย 1.ต้องเดินทางมาจากประเทศที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด และทางอากาศเท่านั้น 2.มีเอกสารหรือหลักฐานรับรองการได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ 3.มีใบรับรองแพทย์ที่ยืนยันไม่พบเชื้อโควิด-19 4.มีใบจองที่พัก 5.เมื่อเดินทางมาถึงท่าอากาศยาน ต้องโหลดแอปพลิเคชั่นที่กำหนด และตรวจหาเชื้อ โดยวิธี RT-PCR ในวันที่ 0-1 และ 6.เมื่อผลการตรวจหาเชื้อ ไม่พบเชื้อ สามารถเดินทางได้ตามความต้องการ

พญ.สุมนี กล่าวว่า ในการเปิดประเทศประชาชนต้องปลอดภัย และระบบสาธารณสุขอยู่ได้ ซึ่งต้องมีการวางแผนรัดกุมและต้องได้รับความร่วมมือจากหลายหน่วยงาน ซึ่งช่วงบ่ายวันนี้จะมีการหารือการเตรียมความพร้อมเปิดประเทศใน 17 จังหวัดนำร่อง โดยจะประชุมร่วมกันของ ศบค.มหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงคมนาคม กระทรวงดิจิทัลเศรษฐกิจและสังคม การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กรมควบคุมโรค สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) หรือ กพท. บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) สำนักงานกำกับและส่งเสริมธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ซึ่งหากมีสถานการณ์เปลี่ยนแปลงหลังเปิดประเทศ ต้องมีเตรียมแผนเผชิญเหตุกรณีมีการแพร่ระบาดเพิ่มขึ้น มีการรายงานผลในวันพุธนี้ต่อไป

ขณะที่สถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก ล่าสุดวันนี้มียอดผู้ติดเชื้อสะสมรวม 241,471,559 ราย เสียชีวิต 4,914,092 ราย โดยประเทศที่มียอดผู้ติดเชื้อสูงสุด อันดับแรก สหรัฐอเมริกา 45,792,532 ราย อันดับ 2 อินเดีย 34,081,049 ราย อันดับ 3 บราซิล 21,644,464 ราย อันดับ 4 สหราชอาณาจักร 8,449,165 ราย และอันดับ 5 รัสเซีย 7,992,687 ราย ส่วนประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ในอันดับที่ 24

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 ต.ค. 64)

Tags: , , ,
Back to Top