HMPRO เผย 9 เดือนโตสวนโควิดจากกลยุทธ์ Omni Channel-จัดกิจกรรมกระตุ้นยอดขาย

นายคุณวุฒิ ธรรมพรหมกุล กรรมการผู้จัดการ บมจ.โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ (HMPRO) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทในช่วง 9 เดือนแรก 64 มีรายได้รวม 46,563.69 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 839.25 ล้านบาท หรือ 1.84% และกำไรสุทธิเท่ากับ 3,665.47 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 55.76 ล้านบาท หรือ 1.54% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน

บริษัทมีรายได้จากการขายสินค้าและรายได้จากการให้บริการลูกค้า (Home Service) รวมจำนวน 44,376.89 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 942.83 ล้านบาท หรือ 2.17% แม้จะมีการปิดสาขาชั่วคราวในไตรมาส 3/64 เป็นผลจากทั้งการเพิ่มประสิทธิภาพช่องทาง Omni Channel และจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายต่างๆ ทั้งบนช่องทางออฟไลน์ และออนไลน์ เช่น Homepro Super Expo และส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการเพิ่มความหลากหลายของสินค้าที่ตอบรับพฤติกรรมผู้บริโภคที่มีการใช้ชีวิตในบ้านมากขึ้น เช่น พฤติกรรมทำงานที่บ้าน

นอกจากนี้ บริษัทมีรายได้จากค่าเช่า 844.03 ล้านบาท ลดลง 237.91 ล้านบาท หรือ 21.99% เป็นผลจากการปรับลดหรือยกเว้นค่าเช่าให้แก่ผู้เช่าที่ยังได้รับผลกระทบจากระบาดของ COVID-19 และคำสั่งของรัฐบาลได้กำหนดให้สามารถเปิดธุรกิจในศูนย์การค้าได้เพียงบางประเภท ซึ่งสามารถเปิดได้น้อยกว่าช่วงเวลาปิดศูนย์การค้าในปีที่ผ่านมา ส่งผลให้รายได้ร้านค้าเช่าจากศูนย์การค้าลดลง รวมถึงไม่มีรายได้ค่าเช่าจากพื้นที่เช่าที่มาจากการจัดงาน Homepro Expo เมื่อเทียบกับในไตรมาส 3/63 ที่มีการจัดกิจกรรม HomePro Expo

ขณะที่บริษัทมีรายได้อื่นอีก จำนวน 1,342.78 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 134.33 ล้านบาท หรือ 11.12% โดยเป็นผลมาจากการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายร่วมกับคู่ค้าในสาขาเพิ่มขึ้น และมีกำไรขั้นต้นจากการขายสินค้าและการให้บริการลูกค้า (Home Service) รวมจำนวน 11,257.37 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 345.45 ล้านบาท หรือ 3.17% โดยอัตรากำไรขั้นต้นต่อยอดขายเพิ่มขึ้นจาก 25.12% ในปีก่อน มาอยู่ที่ 25.37% เป็นผลจากการเพิ่มประสิทธิภาพการวางแผนจัดซื้อสินค้า ควบคุมต้นทุน และเพิ่มสัดส่วนการขายสินค้าของกลุ่มสินค้าที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงกว่าค่าเฉลี่ยเพิ่มขึ้น เช่น กลุ่มสินค้าสำหรับการทำงานที่บ้าน และกลุ่มสินค้าทำความสะอาด แม้ว่าในไตรมาส 3/64 จะได้รับผลกระทบทำให้อัตรากำไรขั้นต่ำลดลงก็ตาม

บริษัทได้วางกลยุทธ์ พัฒนาช่องทาง Omni Channel มาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจำหน่ายสินค้า และการให้บริการต่างๆ เช่น Click and Collect (สั่งซื้อสินค้าออนไลน์และมารับที่สาขา) Same Day Delivery (จัดส่งสินค้าภายในวันที่มีการสั่งซื้อ) และ social media platform “Shop4You” (ผู้ช่วยเสมือนในการเลือกซื้อสินค้าด้วยตนเองที่สาขา) ทำให้บริษัทฯ พร้อมรับมือการเปลี่ยนแปลงจากสถานการณ์โควิด-19 ได้เป็นอย่างดี มองการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม Work From Home เป็นโอกาสที่จะได้เพิ่มสัดส่วนสินค้าใหม่ๆ ให้ตอบรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคมากขึ้น รวมถึงเป็นโอกาสในการขยายฐานลูกค้า และสร้างการรับรู้เกี่ยวกับการสั่งซื้อสินค้าและบริการผ่านทางแพลตฟอร์มต่างๆ ของบริษัทฯ ทางช่องทาง Home Pro Application และ Home Service Application นอกเหนือจากทางเว็บไซต์

บริษัทยังได้มีการดำเนินการสาขาที่มีคำสั่งปิด ด้วยการปรับใช้ระบบ Order Fulfillment เพื่อสื่อสารกับฝ่ายคลังสินค้าในแต่ละสาขา โดยระบบจะเชื่อมโยงการส่งสินค้ากับการสั่งซื้อของลูกค้า ซึ่งทำให้ลดค่าใช้จ่าย และเพิ่มความรวดเร็วในการจัดส่งสินค้า สนับสนุนการจัดส่งภายในวันและจัดส่งในวันถัดไป ทั้งยังให้พนักงานในสาขาปรับการให้บริการเป็นแบบ Shop4You เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าในการสั่งซื้อสินค้าตลอดจนจบกระบวนการ นอกจากนี้สาขายังสามารถจัดเตรียมสินค้าสำหรับลูกค้าที่สะดวกเข้ามารับสินค้าด้วยตัวเองที่สาขาเป็นบริการ Click And Collect ดังนั้นบริษัทฯ จึงสามารถใช้พื้นที่ในสาขา และทรัพยากรบุคคลได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ทั้งนี้ ในสิ้นไตรมาส 3/64 บริษัทมีสาขาในเครือ ได้แก่ โฮมโปร 86 สาขา โฮมโปรเอส 8 สาขา เมกาโฮม 14 สาขา และโฮมโปรในประเทศมาเลเซียอีก 7 สาขา

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 ต.ค. 64)

Tags: , , , ,
Back to Top