กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ปรับตัวขึ้น 2.79% หรือเพิ่มขึ้น 176.27 จุด เมื่อเวลา 10.10 น. นำโดย
- KCE เพิ่มขึ้น 3.12% หรือ 2.75 บาท มาที่ 91.00 บาท มูลค่าซื้อขาย 389.80 ล้านบาท
- HANA เพิ่มขึ้น 2.09% หรือ 1.75 บาทมาที่ 85.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 234.87 ล้านบาท
- DELTA เพิ่มขึ้น 2.44% หรือ 10.00 บาท มาที่ 420 บาท มูลค่าซื้อขาย 203.75 ล้านบาท
นายสรพล วีระเมธีกุล ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กสิกรไทย กล่าวว่า กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ที่ปรับตัวขึ้นมาต่อเนื่องตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา มาจากความกังวลการเปิดประเทศและการคลายล็อกดาวน์เพิ่มเติมอาจจะทำให้จำนวนผู้ป่วยโควิด-19 พุ่งขึ้นอีกรอบในช่วงปลายเดือน พ.ย.ซึ่งจะส่งผลให้เศรษฐกิจชะลอตัวกดดันให้เงินบาทอ่อนค่าลงด้วย จึงส่งผลดีต่อกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์
และจากที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เข้าร่วมการประชุมระดับผู้นำในการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (COP 26) ที่มีเป้าหมายลดการปล่อยมลพิษขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศ ส่งผลดีต่อกลุ่มพลังงานทดแทน รวมถึงกลุ่มยานยนต์ที่จะปรับมีการปรับเปลี่ยนมาใช้รถไฟฟ้า (EV) และแบตเตอรี่มากขึ้น เพื่อทดแทนพลังงานฟอสซิลที่สร้างมลพิษ ดังนั้น กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ก็จะได้รับประโยชน์จกาออร์เดอร์ที่เพิ่มขึ้นไปด้วย
พร้อมแนะนำ “ซื้อ” KCE ให้ราคาเป้าหมาย 104 บาท
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (02 พ.ย. 64)
Tags: DELTA, HANA, KCE, สรพล วีระเมธีกุล, หุ้นไทย, อิเล็กทรอนิกส์, ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส, เคซีอี อีเลคโทรนิคส์, เดลต้า อีเลคโทรนิคส์