ธปท.ผ่อนคลายจ่ายปันผลสถาบันการเงินเกินอัตราในอดีตได้แต่ไม่เกิน 50% ของกำไร

นายรณดล นุ่มนนท์ รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท. ได้กำหนดแนวทางการจ่ายเงินปันผลประจำปี 64 โดยพิจารณาจากผลการประเมิน เพื่อทดสอบระดับเงินกองทุนของธนาคารพาณิชย์ภายใต้ภาวะวิกฤต (stress test) ในช่วงปี 64-66 พบว่าระบบธนาคารพาณิชย์ยังมีความแข็งแกร่งเพียงพอรองรับสถานการณ์ดังกล่าวได้ ประกอบกับธนาคารพาณิชย์ได้เพิ่มความระมัดระวัง ด้วยการทยอยตั้งสำรองและสะสมเงินกองทุนมาโดยตลอด ทำให้ระบบธนาคารพาณิชย์มีอัตราการกันเงินสำรองสูงถึง 1.55 เท่าของสินเชื่อด้อยคุณภาพ และมีอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS ratio) ที่ 19.9% ณ สิ้นไตรมาส 3/64

ดังนั้น ด้วยระบบสถาบันการเงินที่ยังแข็งแกร่ง มีเงินสำรองและเงินกองทุนรองรับสถานการณ์ที่ยังมีความไม่แน่นอนสูงในระยะข้างหน้า ธปท. จึงเห็นควรผ่อนคลายมาตรการการจ่ายเงินปันผล โดยยกเลิกการกำหนดเพดานไม่ให้จ่ายเกินอัตราการจ่ายในอดีต

อย่างไรก็ดี ในช่วงที่เศรษฐกิจเพิ่งเริ่มฟื้นตัว สถาบันการเงินยังจำเป็นต้องเสริมสร้างเงินกองทุนเพื่อรองรับการขยายตัวของสินเชื่ออย่างต่อเนื่อง จึงยังกำหนดให้จ่ายเงินปันผลไม่เกินอัตรา 50% ของกำไรสุทธิประจำปี 2564 รวมทั้งให้ยึดหลักความระมัดระวัง ให้สอดคล้องกับฐานะผลการดำเนินงานของสถาบันการเงิน และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในระยะข้างหน้า

“นโยบายดังกล่าว จะช่วยให้ระบบสถาบันการเงินไทยเข้มแข็ง มีกันชนรองรับความไม่แน่นอนที่อาจเกิดขึ้น ตลอดจนเป็นกลไกสำคัญที่จะช่วยให้สถาบันการเงินสามารถช่วยเหลือลูกหนี้ และสนับสนุนกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้อย่างต่อเนื่อง” นายรณดล กล่าว

สำหรับสาเหตุที่ต้องมีการผ่อนปรนเกณฑ์เพียงแค่บางส่วนนั้น เนื่องจากปัจจุบันภาพเศรษฐกิจเริ่มทยอยปรับตัวดีขึ้น รวมทั้งระบบสถาบันการเงินมีความมั่นคงแข็งแกร่ง มีเงินสำรองและเงินกองทุนเพียงพอรองรับสถานการณ์ที่ยังมีความไม่แน่นอนสูง ธปท. จึงมองว่าสามารถทยอยผ่อนคลายมาตรการเงินปันผลได้

ส่วนการจะยกเลิกกำหนดเพดานได้เมื่อใดนั้น ปัจจัยสำคัญที่ใช้พิจารณา นอกจากระบบสถาบันการเงินยังมีความแข็งแกร่งเพียงพอรองรับสถานการณ์ภายใต้ภาวะวิกฤติได้แล้ว ยังควรสามารถสนับสนุนเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ เมื่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจทยอยปรับเข้าสู่ภาวะปกติ ก็อาจไม่จำเป็นต้องกำหนดนโยบายกลางในการจำกัดการจ่ายเงินปันผลของสถาบันการเงินในระยะข้างหน้า

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 พ.ย. 64)

Tags: , ,
Back to Top