จีนเตรียมเปิดซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ปักกิ่งพรุ่งนี้วันแรก หวังหนุนธุรกิจ SME

ตลาดหลักทรัพย์ปักกิ่ง (Beijing Stock Exchange) จะเริ่มทำการซื้อขายในวันจันทร์นี้ (15 พ.ย.) นับเป็นก้าวสำคัญของจีนในการปรับปรุงตลาดทุนของประเทศ เนื่องจากตลาดหุ้นแห่งใหม่นี้จะให้บริการแก่ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมจำนวนมหาศาล

แถลงการณ์เมื่อวันศุกร์ (12 พ.ย.) ระบุว่าต ลาดหลักทรัพย์ปักกิ่งเตรียมพร้อมเปิดให้บริการ โดยคาดว่าจะมีบริษัทกลุ่มแรกจำนวน 81 แห่งที่เริ่มการซื้อขายหุ้นแต่วันจันทร์เป็นต้นไป

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ตลาดหลักทรัพย์ปักกิ่งเปิดตัวขึ้นหลังจากที่จีนประกาศแผนการจัดตั้งตลาดหุ้นแห่งใหม่เมื่อสองเดือนก่อน ซึ่งได้รับกระแสตอบรับที่ดีภายหลังการประกาศ เนื่องจากมุ่งแก้ปัญหาทางการเงินอันซับซ้อนที่มีมายาวนานของบรรดาธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม

ตลาดหลักทรัพย์แห่งใหม่นี้เป็นการปฏิรูปตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศจีน (NEEQ) หรือ ที่รู้จักกันในชื่อตลาดหุ้นแห่งที่ 3 (New Third Board) และจะมีบทบาทที่แตกต่างออกไปจากตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้และตลาดหลักทรัพย์เซินเจิ้น รวมถึงจะช่วยเสริมสร้างความเชื่อมโยงระหว่างตลาดหลักทรัพย์สองแห่งนี้ด้วย

การประกาศจัดตั้งตลาดหลักทรัพย์ปักกิ่งได้กระตุ้นความสนใจและความกระตือรือร้นของตลาดในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา บรรดานักลงทุนและบริษัทต่าง ๆ ต่างจับตาดูความคืบหน้าอย่างใกล้ชิดและแข่งขันกันเพื่อให้ได้มาซึ่งคุณสมบัติในการซื้อขายหุ้น

เมื่อวันที่ 12 พ.ย. ตลาดหลักทรัพย์ปักกิ่งระบุว่า มีนักลงทุนรายใหม่กว่า 2.1 ล้านคนยื่นสมัครเป็นนักลงทุนที่ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติ (Qualified Investor) พร้อมเสริมว่าจำนวนนักลงทุนที่เข้าเงื่อนไขจะทะลุ 4 ล้านคนหลังตลาดเริ่มการซื้อขาย นอกจากนี้ยังเผยว่า มีบริษัทหลักทรัพย์ที่ได้รับอนุมัติให้เป็นสมาชิกของตลาดหลักทรัพย์แห่งนี้แล้ว 112 แห่ง

ในวันเดียวกัน ยังมีการเปิดเผยถึงระเบียบปฏิบัติจำนวน 6 ฉบับ ร่วมกับแนวปฏิบัติอื่นๆ อีก 45 ข้อที่ออกมาก่อนหน้านี้ ประกอบกันเป็นระบบการกำกับดูแลตนเองของตลาดหลักทรัพย์ปักกิ่งที่มีการกำหนดกฎระเบียบต่าง ๆ ด้านการออกและเสนอขายหลักทรัพย์ รวมไปถึงการจัดหาเงินทุน การกำกับดูแลและการซื้อขาย และอื่น ๆ

หลี่ตงซวี่ กรรมการผู้จัดการบริษัทสินเชื่อเพื่อธุรกิจหลักทรัพย์จีน (China Securities) กล่าวว่า บริษัทกลุ่มแรกเหล่านี้ได้สะท้อนให้เห็นถึงบทบาทของตลาดหลักทรัพย์ปักกิ่งในการเป็นตลาดซื้อขายแห่งหลักสำหรับธุรกิจเชิงนวัตกรรมขนาดกลางและขนาดย่อม และบริษัทกลุ่มแรกนี้ล้วนเป็นบริษัทชั้นนำในแต่ละภาคส่วน ที่มีทั้งผลประกอบการที่ดีและศักยภาพการเติบโตสูง

เขายังกล่าวว่า บริษัทเหล่านี้ครอบคลุมอุตสาหกรรมหลัก 25 ประเภทในหลากหลายภาคส่วน เช่น การผลิตระดับสูง บริการเทคโนโลยีขั้นสูง และอุตสาหกรรมเชิงยุทธศาสตร์ที่เกิดใหม่ โดยยอดใช้จ่ายเฉลี่ยในด้านการวิจัยและพัฒนาของบริษัทเหล่านี้อยู่ที่กว่า 25.36 ล้านหยวน (ราว 130 ล้านบาท)

ขณะที่มีบริษัทจำนวนมากเข้าคิวรอเสนอซื้อขายหุ้นแก่สาธารณชน ตลาดหลักทรัพย์ปักกิ่งก็จะปรับปรุงการกำกับดูแลการดำเนินงานและคุณภาพของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาด รวมถึงออกมาตรการเพื่อเสริมสร้างการตรวจสอบก่อนการจดทะเบียน แจกแจงภาระความรับผิดชอบของสถาบันตัวกลางและบริษัทที่จดทะเบียน รวมไปถึงสร้างช่องทางที่ราบรื่นสำหรับการเพิกถอนบริษัทจดทะเบียนจากตลาดหลักทรัพย์

ผู้สังเกตการณ์หลายรายกล่าวว่า การเปิดซื้อขายในครั้งนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นของตลาดหลักทรัพย์ปักกิ่ง พร้อมสนับสนุนให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องพยายามปรับตัวให้ทันและเปิดกว้างมากขึ้น รวมถึงทำงานร่วมกันเพื่อเสริมสร้างสภาพแวดล้อมตลาดที่ดี เพื่อเอื้อให้ตลาดหุ้นใหม่นี้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 พ.ย. 64)

Tags: , , , ,
Back to Top