นายกฯ เร่งรัดความคืบหน้าโมโนเรลสายสีเทา เชื่อมโยงโครงข่ายช่วยพัฒนาเมือง

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม รับทราบความคืบหน้าการดำเนินโครงการรถไฟฟ้ารางเดี่ยว “โมโนเรลสายสีเทา” (Monorail) ซึ่งได้ข้อสรุปการดำเนินโครงการในช่วงแรกแล้ว โดยโครงการรถไฟฟ้ารางเดี่ยว โมโนเรลสายสีเทา จะใช้ช่วงสถานีวัชรพล-ทองหล่อ เป็นเส้นทางนำร่องในช่วงแรก ระยะทางรวม 16.3 กม. วงเงินการก่อสร้าง 27,500 ล้านบาท มีสถานีทั้งหมด 15 สถานี ใช้ระยะเวลาในการเดินทางไป-กลับ ประมาณ 62 นาที คาดว่าจะสามารถรองรับผู้โดยสารได้ประมาณ 8,000 – 30,000 คน/ชั่วโมง/ทิศทาง ใช้ระบบควบคุมการเดินรถอัตโนมัติ (Automatic Train Control: ATC) และมีระบบการเก็บค่าโดยสารอัตโนมัติ (Automatic Fare Collection System)

ทั้งนี้ เส้นทางการเดินรถไฟมีทั้งสิ้น 3 ระยะ ได้แก่ ระยะที่ 1 ช่วงวัชรพล – ทองหล่อ ระยะที่ 2 ช่วงพระโขนง – พระราม 3 และระยะที่ 3 ช่วงพระราม 3 – ท่าพระ รวมระยะทางประมาณ 40 กม. ซึ่งคาดว่าทั้งหมด 3 ระยะนี้ จะเปิดให้บริการได้ในปี 2573

“นายกรัฐมนตรีรับทราบการดำเนินการ ติดตาม และสั่งการเร่งรัดเพื่อพัฒนาโครงการดังกล่าว ซึ่งถือเป็นประเด็นที่นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญ โดยเฉพาะการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านเส้นทางคมนาคม เป็นการยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมขนส่งทางรางอย่างเป็นระบบ ให้สอดคล้องกับโครงการขนส่งสาธารณะในรูปแบบอื่น ๆ เพื่อให้เชื่อมโยงเป็นโครงข่ายเดียวกัน นอกจากจะส่งผลต่อการพัฒนาเมือง และพัฒนาพื้นที่ตามแนวเส้นทางสถานี พัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนแล้ว ยังช่วยสร้างงาน สร้างอาชีพให้แก่ประชาชน ยกระดับมาตรฐานการดำรงชีวิตของคนไทย ซึ่งทุกประเด็นความเจริญที่จะส่งผลถึงประชาชนเป็นสิ่งที่นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญที่สุด”

นายธนกร กล่าว

สำหรับโครงการรถไฟฟ้ารางเดี่ยว หรือโมโนเรล เป็นการดำเนินงานตามแผนพัฒนาโครงการในรูปแบบการร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐ (PPP) สอดคล้องตาม พ.ร.บ.การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 มีการศึกษาวิเคราะห์ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น ข้อเสนอแนะร่วมกันทั้งจากภาครัฐและภาคเอกชน รวมทั้งจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ถือเป็นการเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนร่วมลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานกับภาครัฐได้อย่างยั่งยืน และครอบคลุมในระยะยาว สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้ทุกภาคส่วนได้ผ่านระบบขนส่งสาธารณะ ซึ่งเป็นสาธารณูปโภคพื้นฐานภายในประเทศ และต่อยอดไปสู่การเชื่อมโยงระบบขนส่งในภูมิภาค

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 พ.ย. 64)

Tags: , , , , ,
Back to Top