ดาวโจนส์ปิดลบ 60.10 จุด หลังหุ้นซิสโกร่วงหนัก

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (18 พ.ย.) โดยถูกกดดันจากการร่วงลงของหุ้นซิสโก ซิสเต็มส์ ซึ่งเป็นหนึ่งในหลักทรัพย์ที่ใช้คำนวณดัชนีดาวโจนส์ อย่างไรก็ดี ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดในแดนบวก ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัท Nvidia ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปคอมพิวเตอร์รายใหญ่ของโลก รวมทั้งผลประกอบการที่ดีเกินคาดของบริษัทค้าปลีก เช่น บริษัทโคห์ลส์ คอร์ป

  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,870.95 จุด ลดลง 60.10 จุด หรือ -0.17%,
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,704.54 จุด เพิ่มขึ้น 15.87 จุด หรือ +0.34% และ
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,993.71 จุด เพิ่มขึ้น 72.14 จุด หรือ + 0.45%

หุ้นซิสโก ซิสเต็มส์ ร่วงลง 5.51% และเป็นปัจจัยฉุดดัชนีดาวโจนส์ปิดในแดนลบ หลังบริษัทเปิดเผยรายได้ในไตรมาส 1 ของปีงบการเงิน 2565 อยู่ที่ 1.290 หมื่นล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 1.298 หมื่นล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ บริษัทยังเปิดเผยตัวเลขคาดการณ์รายได้ในไตรมาส 2/2565 ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ โดยได้รับผลกระทบจากปัญหาตึงตัวของอุปทาน

ดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลง 0.54% เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มราคาน้ำมัน หลังมีข่าวว่าสหรัฐเรียกร้องให้จีนระบายน้ำมันออกจากคลังสำรองเพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันในตลาดโลก ทั้งนี้ หุ้นเอ็กซอน โมบิล ร่วงลง 1.09% หุ้นเชฟรอน ลดลง 0.84% หุ้นอ็อคซิเดนเชียล ปิโตรเลียม ลดลง 0.39% หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน ปรับตัวลง 0.91%

หุ้นอาลีบาบา โฮลดิ้งส์ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหุ้นนิวยอร์ก ร่วงลง 11.13% หลังบริษัทเปิดเผยตัวเลขกำไรและรายได้ต่ำกว่าคาดในช่วงเดือนก.ค.-ก.ย. ซึ่งเป็นไตรมาส 2/2564 ตามปีงบการเงินบริษัท โดยได้รับผลกระทบจากการบริโภคที่ชะลอตัว รวมทั้งปัญหาคอขวดในห่วงโซ่อุปทาน

อย่างไรก็ดี ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดในแดนบวก ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัท Nvidia โดยกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 3 ของ Nvidia อยู่ที่ 1.17 ดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.11 ดอลลาร์ ส่วนรายได้อยู่ที่ 7.10 พันล้านดอลลาร์ สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 6.82 พันล้านดอลลาร์

ผลประกอบการที่ดีเกินคาดของ Nvidia ช่วยหนุนดัชนีหุ้นกลุ่มผู้ผลิตชิปดีดตัวขึ้น 1.8% โดยหุ้นไมครอน เทคโนโลยี พุ่งขึ้น 2.07% หุ้นควอลคอมม์ บวก 1.51% หุ้นแอดวานซ์ ไมโคร ดีไวเซส (AMD) พุ่งขึ้น 2.43%

นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากผลประกอบการที่สดใสของบริษัทค้าปลีก โดยเมซีส์ อิงค์ ซึ่งเป็นห้างสรรพสินค้ายักษ์ใหญ่ของสหรัฐเปิดเผยกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 3/2564 ที่ระดับ 1.23 ดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.31 ดอลลาร์ ทั้งนี้ ข้อมูลดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นเมซีส์ อิงค์ ทะยานขึ้น 21.17%

หุ้นโคห์ลส์ คอร์ป ซึ่งเป็นห้างค้าปลีกยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ พุ่งขึ้น 10.62% หลังบริษัทเปิดเผยกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 3/2564 ที่ระดับ 1.65 ดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.64 ดอลลาร์

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 1,000 ราย สู่ระดับ 268,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2563 ซึ่งเป็นช่วงเริ่มต้นการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ

ทางด้านธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟีย เปิดเผยดัชนีภาคการผลิตในภูมิภาคมิด-แอตแลนติก พุ่งขึ้นสู่ระดับ 39.0 ในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือน และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 24.0 จากระดับ 23.8 ในเดือนต.ค.

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 พ.ย. 64)

Tags: , , ,
Back to Top