คกก.ประมงแห่งชาติ เคาะแผนอนุรักษ์สัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนม ป้องกันผลกระทบส่งออก

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวก่อนการประชุมคณะกรรมการนโยบายการประมงแห่งชาติ ครั้งที่ 5/2564 ว่า รัฐบาลดำเนินการแก้ไขปัญหาเรื่องแรงงานประมงมาตลอด เพื่อทำให้ประเทศไทยจัดอยู่ในอันดับเทียร์ 2 และขณะนี้ก็มีการจับกุมดำเนินการคดีเรื่องค้ามนุษย์ ดังนั้นขออย่าเป็นห่วง

พล.ต.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผู้ช่วยโฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการประมงแห่งชาติ โดยได้พิจารณาเห็นชอบหลักการโครงการเร่งด่วน และแผนปฏิบัติการระดับชาติเพื่ออนุรักษ์และบริหารจัดการสัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนม (Marine Mammal Protection Act :MMPA) ปี 66-70 เพื่อสร้างความมั่นใจว่า ประเทศไทยมีการอนุรักษ์และการบริหารจัดการสำหรับสัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนมที่เป็นรูปธรรม เป็นไปตามหลักสากล และพันธกรณีระหว่างประเทศ ภายใต้การมีส่วนร่วม ของทุกภาคส่วน

โดยความคืบหน้าการดำเนินงานเพื่อแก้ไขปัญหาผลกระทบของการทำประมงต่อสัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนมนั้น กรมประมงได้หารือร่วมกับผู้ประกอบการ ได้แก่ สมาคมอุตสาหกรรมทูน่าไทย, สมาคมผู้ผลิตอาหารสำเร็จรูป, สมาคมอาหารแช่เยือกแข็งไทย และบริษัทที่เกี่ยวข้อง โดยให้ตรวจสอบบัญชี List of Foreign Fisheries 2020 : LOFF ปี 2020 เพื่อประเมินผลกระทบ และเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติตามกฎหมาย MMPA ของสหรัฐต่อไป

พล.อ.ประวิตร ยังได้กำชับ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ,กองทัพเรือ,กรมประมง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ร่วมมือกันแก้ปัญหาตามกรอบแนวทางกฎหมาย MMPA ของสหรัฐ เพื่อป้องกันผลกระทบการส่งออกสินค้าประมงไทย และส่งเสริมการทำประมง อย่างถูกต้องตามกฎหมาย พร้อมเร่งรัดขับเคลื่อนโครงการอนุรักษ์สัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนมให้ได้ผลอย่างจริงจัง เพื่อส่งเสริม มาตรฐานภาคการส่งออกสินค้าประมงของประเทศต่อไป

พร้อมทั้งรับทราบความก้าวหน้าการจัดทำนโยบายและแผนบริหารจัดการประมง 4 ด้าน ปี 66-67 เพื่อเป็นกลไกขับเคลื่อนการปฏิบัติงาน ได้แก่ 1) นโยบายพัฒนาประมงในน่านน้ำไทย 2) การแก้ปัญหาประมงนอกน่านน้ำไทย 3) การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำของประเทศ และ 4)การพัฒนาอุตสาหกรรมต่อเนื่องด้านประมง เพื่อการบริหารจัดการทำประมงในประเทศไทย และในน่านน้ำไทย ป้องกันมิให้มีการทำประมงผิดกฎหมาย และสอดคล้องกับการปฏิบัติตามพันธกรณี ระหว่างประเทศ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 พ.ย. 64)

Tags: , , , ,
Back to Top