กรมประมง เดินหน้าคุ้มครองสัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนมตามกฎหมาย MMPA ของสหรัฐ

นายบัญชา สุขแก้ว รองอธิบดีกรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการนโยบายประมงแห่งชาติ เปิดเผยว่า จากการที่สหรัฐอเมริกาได้ประกาศข้อกำหนดว่าด้วยการนำเข้าสินค้าประมง ภายใต้กฎหมายว่าด้วยการนำเข้าสินค้าสัตว์น้ำเพื่อคุ้มครองสัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนม (Marine Mammal Protection Act – MMPA) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินกฎระเบียบข้อบังคับการทำประมง การทำประมงเชิงพาณิชย์ของประเทศที่ส่งสินค้าสัตว์น้ำ และผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำไปยังสหรัฐฯ ที่อาจส่งผลกระทบทำให้เกิดการตายหรือบาดเจ็บรุนแรงต่อสัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนม เช่น โลมา วาฬ พะยูน ฯลฯ

ทั้งนี้ สหรัฐฯ ได้ประกาศเริ่มใช้กฎหมาย MMPA เมื่อวันที่ 1 ม.ค. 60 และกำหนดระยะเวลาผ่อนผัน 5 ปี เพื่อให้ประเทศคู่ค้าได้มีการเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติให้สอดคล้องกับกฎระเบียบ MMPA และจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ม.ค. 66 เป็นต้นไป โดยในช่วงระหว่างการผ่อนผันนี้ ประเทศที่ส่งออกสินค้าประมงไปยังสหรัฐอเมริกา รวมทั้งประเทศไทยยังคงส่งสินค้าประมงได้

ที่ผ่านมา กรมประมง ได้มีการขับเคลื่อนการดำเนินการผ่านคณะทำงานชุดต่างๆ ซึ่งแต่งตั้งโดยคณะกรรมการนโยบายประมงแห่งชาติ จำนวน 3 คณะ ประกอบด้วย 1. คณะอนุกรรมการป้องกัน แก้ไขปัญหา และประสานงานการปฏิบัติเกี่ยวกับผลกระทบของการทำประมงต่อสัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนม 2. คณะอนุกรรมการวิชาการเพื่อจัดทำข้อมูลสนับสนุนการแก้ไขปัญหาผลกระทบของการทำประมงต่อสัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนม และ 3. คณะกรรมการเฉพาะกิจเจรจาแก้ไขปัญหาผลกระทบของการทำประมงต่อสัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนม เพื่อดำเนินการเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติตามกฎหมาย MMPA ให้ทันตามระยะเวลาที่กำหนด

อย่างไรก็ดี ในการขับเคลื่อนการดำเนินการ คณะอนุกรรมการป้องกันฯ ได้แต่งตั้งคณะทำงานจัดส่งข้อมูลสำหรับการรายงาน โดยมีผู้เชี่ยวชาญด้านนิเวศวิทยา เป็นประธานคณะทำงาน และกรมประมงได้เปิดประชุม ป. ปลา เป็นห้องปฏิบัติการเฉพาะกิจเพื่อการบันทึกข้อมูลในระบบอิเล็กทรอนิกส์ International Affairs Information Capture and Reporting System (IAICRS) คณะทำงานฯ มีการปฏิบัติงานต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 9 พ.ย. 64 จนกว่าการจะบันทึกข้อมูลแล้วเสร็จภายในวันที่ 30 พ.ย. 64 โดยมีผู้บริหารกรมประมงกำกับและติดตามความก้าวหน้าในการทำงานอย่างใกล้ชิด

เมื่อวันที่ 19 พ.ย. 64 ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการประมงแห่งชาติ ครั้งที่ 5/64 ซึ่งมีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานฯ ได้มีมติเห็นชอบในหลักการของแผนปฏิบัติการระดับชาติเพื่อการอนุรักษ์และบริหารจัดการสัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนม พ.ศ. 2566 – 2570 และโครงการเร่งด่วนเพื่อการอนุรักษ์และบริหารจัดการสัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนม พ.ศ. 2564 – 2565 ตามที่กรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ทำการผลักดัน เพื่อใช้โอกาสในช่วงระยะเวลาที่สหรัฐฯ ผ่อนผัน ในการติดตามประเมินสถานภาพสัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนม การวางระบบรวบรวมข้อมูลสัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนมจากการทำประมง การพัฒนากฎระเบียบ ข้อบังคับ หรือมาตรการที่เกี่ยวข้องในการลดการตายและการบาดเจ็บของสัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนมจากการทำประมง เพื่อให้สอดรับกับกฎหมาย MMPA ของสหรัฐฯ

สำหรับแผนปฏิบัติการระดับชาติเพื่อการอนุรักษ์และบริหารจัดการสัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนม พ.ศ. 2566 – 2570 ประกอบด้วย 5 กลยุทธ์ 19 แผนงาน 51 โครงการ ดังนี้ กลยุทธ์ที่ 1 การติดตามและประเมิน (Monitoring & Estimation) ประกอบด้วย 2 แผนงาน 8 โครงการ, กลยุทธ์ที่ 2 การวิจัยและพัฒนา (Research & Development) ประกอบด้วย 5 แผนงาน 11 โครงการ, กลยุทธ์ที่ 3 การอนุรักษ์และจัดการ (Conservation & Management) ประกอบด้วย 6 แผนงาน 11 โครงการ, กลยุทธ์ที่ 4 การบังคับใช้ (Enforcement) ประกอบด้วย 3 แผนงาน 7 โครงการ และกลยุทธ์ที่ 5 การสื่อสาร (Communication) ประกอบด้วย 3 แผนงาน 14 โครงการ

ส่วนโครงการเร่งด่วนที่ต้องเร่งดำเนินการเพื่อการอนุรักษ์และบริหารจัดการสัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนม พ.ศ. 2564 – 2565 จำนวน 8 โครงการ ได้แก่

  1. โครงการการใช้เทคโนโลยีสำรวจติดตามและประเมินจำนวนสัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนมกลุ่มประชากรใกล้ฝั่งและไกลฝั่ง
  2. โครงการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเพื่อการปรับเปลี่ยนเครื่องมือประมงและวิธีการทำการประมงเพื่อป้องกันการติดโดยบังเอิญของสัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนม
  3. โครงการการประเมินผลกระทบด้านสังคม เศรษฐกิจ การแก้ไขปัญหา การบรรเทาผลกระทบและการเยียวยาชาวประมง ผู้ประกอบการ และผู้มีส่วนได้เสียตลอดห่วงโซ่
  4. โครงการการแก้ไขปัญหาเครื่องมือประมงที่มีผลกระทบต่อพะยูน
  5. โครงการการพัฒนาระบบการออกใบอนุญาตทำการประมง (e-License) เพื่อรองรับมาตรการเพื่อการอนุรักษ์และบริหารจัดการสัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนม
  6. โครงการการเพิ่มประสิทธิภาพระบบตรวจสอบย้อนกลับสินค้าสัตว์น้ำเพื่อรองรับ Marine Mammal Protection Act ของประเทศสหรัฐอเมริกา
  7. โครงการการควบคุมเฝ้าระวังพื้นที่ทำการประมงในบริเวณพื้นที่เสี่ยงต่อสัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนม
  8. โครงการการเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลสัตว์ทะเลหายากผ่านระบบการลาดตระเวนเชิงคุณภาพทางทะเล (Smart Marine Patrol) มีวงเงินงบประมาณรวม 225.9 ล้านบาท โดยมอบให้อนุกรรมการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย อ. 1 พิจารณารายละเอียดโครงการ และงบประมาณต่อไป

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 พ.ย. 64)

Tags: , , , ,
Back to Top