สนพ.ปรับแผน PDP ใหม่เร่งเพิ่มพลังงานสะอาดเข้าระบบเชื่อไม่กระทบค่า Ft

นายวีรพัฒน์ เกียรติเฟื่องฟู รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผยว่า ตามมติที่ประชุมคณะ กรรมการบริหารนโยบายพลังงาน(กบง.) เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2564 ได้ปรับเพิ่มสัดส่วนพลังงานสะอาดให้เร็วขึ้นในปี 64-73

เบื้องต้น กบง.พิจารณา 10 ปีแรก ซึ่งจะบรรจุไว้ในแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศไทยฉบับใหม่ (PDP 2022) ให้เพิ่มสัดส่วนพลังงาน สะอาดในระบบ โดยมอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) และ 3 การไฟฟ้า ไปดูศักยภาพสายส่งเพื่อรองรับ พลังงานสะอาดที่จะเข้าระบบเพิ่มขึ้น

เบื้องต้นจะเป็นการปรับลดสัดส่วนโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติลง 700 เมกะวัตต์ และจะเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงาน สะอาดเพิ่มขึ้นสุทธิ 1,000 เมกะวัตต์

โดยจำแนกเป็นประเภทเชื้อเพลิง ดังนี้

โรงไฟฟ้าใหม่

หน่วย:เมกะวัตต์

เชื้อเพลิงฟอสซิลPDP2018 Rev.1(A)  การปรับปรุงใหม่ส่วนต่าง (B-A)
โรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ5,5504,850-700
โรงไฟฟ้าถ่านหิน (ลิกไนต์)6006000

หน่วย:เมกะวัตต์

พลังงานสะอาดPDP2018 Rev.1(A)  การปรับปรุงใหม่ส่วนต่าง (B-A)
รับซื้อไฟฟ้าจากพลังน้ำในต่างประเทศ1,4002,7661,366
พลังงานแสงอาทิตย์5,1944,455-739
พลังงานลม2701,5001,230
ชีวมวล1,120485-635
ก๊าซชีวภาพ783335-448
ขยะ400600200
พลังน้ำขนาดเล็ก265226

อย่างไรก็ตาม สัดส่วนพลังงานสะอาดที่เพิ่มขึ้นหลังปรับแผน 10 ปี จะเพิ่มเป็น 26% ของกำลังการผลิตไฟฟ้าทั้งหมด จาก ปัจจุบันอยู่ที่ 23% ส่วนกรณีที่มองว่าพลังงานสะอาดจะส่งผลกระทบต่อค่าเอฟที จากปัจจุบันคิดเป็นประมาณ 30 สตางค์ต่อหน่วยนั้น ซึ่งมองว่า ต้นทุนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดลลดลงมาก คงไม่ส่งผลกระทบต่อค่าไฟมากนัก

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 พ.ย. 64)

Tags: , , , , , ,
Back to Top