ราคาทองในประเทศเช้านี้ร่วงบาทละ 200 หลังคลายกังวลโควิดโอไมครอน

สมาคมค้าทองคำ รายงานว่า ราคาขายปลีกทอง (ทองคำ 96.5%) ในประเทศ เมื่อเวลา 09.28 น.ปรับตัวลดลงบาททองคำละ 200 จากวานนี้ โดยราคาทองคำแท่งรับซื้อเข้าบาททองคำละ 28,400.00 ขายออกบาททองคำละ 28,500.00 ขณะที่ราคาทองรูปพรรณ รับซื้อเข้าบาททองคำละ 27,894.40 ขายออกบาททองคำละ 29,000.00

บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวลดลง 7.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แม้ระหว่างวันราคาทองคำจะดีดขึ้นไปทดสอบระดับสูงสุดบริเวณ 1,799.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ทองคำไม่สามารถรักษาช่วงบวกไว้ได้และเผชิญกับแรงขายในเวลาต่อมา

ราคาทองคำได้รับแรงกดดันจากการที่นักลงทุนคลายความวิตกเกี่ยวกับโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน หลังจากนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐ กล่าววานนี้ว่า รัฐบาลสหรัฐไม่มีนโยบายที่จะประกาศล็อกดาวน์เศรษฐกิจ ขณะที่ไฟเซอร์, โมเดอร์นา และจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ต่างก็เริ่มพัฒนาวัคซีนสูตรใหม่เพื่อรับมือกับโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน ส่งผลให้นักลงทุนกลับเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยง สะท้อนจากดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 236.60 จุด หรือ +0.68%, ดัชนี S&P500 ปิด +1.32% และดัชนี Nasdaq ปิด +1.88% และเทขายสินทรัพย์ปลอดภัย เช่น ทองคำและพันธบัตร และแรงขายพันธบัตรส่งผลหนุนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐให้ฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดที่ 1.4765% ในวันศุกร์ กลับมาเพิ่มขึ้นสูงถึง 1.565% จนกดดันทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ไม่ได้ให้ผลตอบแทนในรูปแบบของดอกเบี้ย

นอกจากนี้ ทองคำยังได้รับแรงกดดันเพิ่มจากดัชนีดอลลาร์ ที่ฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดในรอบ 1 สัปดาห์ หลังจากนักลงทุนคลายความวิตกที่ว่าโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนอาจทำให้การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐหยุดชะงัก และชะลอแผนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำไม่เปลี่ยนแปลง

สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยดัชนี PMI เขตชิคาโก, ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจาก CB และจับตาถ้อยแถลงของนายพาวเวล ที่มีกำหนดจะแถลงต่อคณะกรรมาธิการด้านการธนาคารแห่งวุฒิสภา ในหัวข้อ “Coronavirus Aid, Relief, and Economic Security Act หรือ CARES”

ทั้งนี้ ราคาทองคำพยายามขึ้นไปทดสอบแนวต้านในโซน 1,815-1,821 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากแรงซื้อไม่มากพอหรือราคาไม่สามารถยืนได้อย่างแข็งแกร่ง ทำให้ประเมินว่าในระยะสั้น ยังคงมีโอกาสปรับตัวลงทดสอบ แนวรับ 1,779 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่แนวรับถัดไปนั้นอยู่ในบริเวณ 1,766 ดอลลาร์ต่อออนซ์

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 พ.ย. 64)

Tags: , , , ,
Back to Top