แนวโน้มหุ้นไทยเช้าผันผวนหลังไม่มั่นใจไวรัสโอไมครอน-เฟดจะยุติ QE เร็วกว่าคาด

นักวิเคราะห์ฯคาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้ผันผวน-อิงลบ เล็งแรงขายยังมีอยู่หลังไม่มั่นใจเกี่ยวกับไวรัสโควิดสายพันธุ์โอไมครอน และเฟดก็จะยุติทำ QE เร็วกว่าคาดด้วย ทำให้นักลงทุนคงจะเลือกถอยก่อน แต่ราคาน้ำมันเช้านี้บวกได้ และตลาดภูมิภาคก็บวกตามดาวโจนส์ฟิวเจอร์ส ดังนั้นตลาดบ้านเราอาจจะไม่ติดลบมาก พร้อมให้แนวรับ 1,560 แนวต้าน 1,575 จุด

นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนหลักทรัพย์ บล.เคทีบีเอสที กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะผันผวน แต่ก็อิงไปทางแดนลบ เนื่องจากคาดว่านักลงทุนยังคงจะขายหุ้นไทยจากความไม่มั่นใจเกี่ยวกับไวรัสโควิดสายพันธุ์โอไมครอน และนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณยุติโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) เร็วกว่าที่คาดไว้ด้วย ทำให้นักลงทุนคงจะเลือกที่จะถอยออกมาก่อน

อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันในช่วงเช้านี้ได้ปรับตัวขึ้น แต่เชื่อว่าคนก็ยังเลือกที่จะขายอยู่ดี แต่ตลาดฯอาจจะไม่ติดลบมาก ซึ่งในระหว่างเทรดก็มีโอกาสที่จะรีบาวด์ได้ เนื่องจากเช้านี้ดาวโจนส์ฟิวเจอร์สได้ปรับตัวขึ้น ส่งผลให้ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวในแดนบวกกัน

ทั้งนี้ ให้ติดตามดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนพ.ยของจีน และสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุ์โอไมครอน รวมถึงติดตามการประชุมกลุ่มโอเปกพลัสในวันที่ 2 ธ.ค.นี้ แต่ก็คิดว่าไม่น่าจะมีอะไรมาก เพราะดีมานต์น้ำมันได้เริ่มถอยลงมาแล้ว

พร้อมให้แนวรับ 1,560 จุด ส่วนแนวต้าน 1,575 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

– ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (30 พ.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,483.72 จุด ลดลง 652.22 จุด (-1.86%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,567.00 จุด ลดลง 88.27 จุด (-1.90%) และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,537.69 จุด ลดลง 245.14 จุด (-1.55%)

– ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 44.97 จุด หรือ +0.16%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 120.31 จุด หรือ +0.51% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 2 จุด หรือ -0.06%

– ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (30 พ.ย.)1,568.69 จุด ลดลง 21.00 จุด (-1.32%)

– นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 3,604.38 ล้านบาท เมื่อวันที่ 30 พ.ย.64

– ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ม.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (30 พ.ย.) ปิดที่ระดับ 66.18 ดอลลาร์/บาร์เรล ร่วงลง 3.77 ดอลลาร์ หรือ 5.4%

– ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (30 พ.ย.) อยู่ที่ 2.82 ดอลลาร์/บาร์เรล

– เงินบาทเปิด 33.70 แนวโน้มแข็งค่าตามภูมิภาครับดอลลาร์อ่อนค่าหลังเฟดส่งสัญญาณยุติ QE

– ครม.เคาะยกระดับสกัดโอไมครอน ตรวจ RT-PCR นักท่องเที่ยวเข้าไทย นายกฯสั่งจับตาใกล้ชิด เจอเชื้อยกระดับล็อกดาวน์ ททท.ยันไม่กระทบทัวริสต์ตัดสินใจเที่ยวไทย สธ.เตรียมแผนรับมือ สำรองยาฟาร์วิพิราเวียร์ใช้วันละ 5 แสนเม็ด 45 วัน วัคซีนโควิดเหลืออีก 40 ล้านโดส พร้อมบูสต์ หลังทั่วประเทศฉีดเข็ม 1 ครอบคลุม 72%

– นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า แนวโน้มภาคการผลิตของไทยเริ่มฟื้นตัวต่อเนื่องสะท้อนจากดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม หรือ MPI เดือนตุลาคม 2564 ระดับ 97.99 ขยายตัว 2.91% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนส่งผลให้ MPI 10 เดือน (ม.ค. ต.ค.) อยู่ที่ 97.26 ขยายตัว 5.93% ดังนั้นสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) จึงได้ทำการปรับประมาณการMPI ปี 2564 ขยายตัวเพิ่มขึ้นเป็น 5.2% จากเดิม 4-5% ส่วน GDP ภาคอุตสาหกรรมขยายตัวเป็น 3.9% จากเดิม 3-4% และในปี 2565 ประมาณการ MPI ขยายตัว 4.0-5.0% ส่วน GDP ภาคอุตสาหกรรมขยายตัว 2.5-3.5%

– ธปท.ลุ้นจีดีพีปี 64 โตสูงกว่า 0.7% หลังแนวโน้มเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว อานิสงส์คลายล็อกโควิด เร่งฉีดวัคซีน-มาตรการรัฐหนุนเต็มสูบ จับตา “โอไมครอน” คาดกระทบ ศก.ปีนี้ไม่มาก นายกฯ ถกหามาตรการใหม่ดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ แย้มมีข่าวดีเร็วๆ นี้สมาคมวินาศภัย รับกังวล โอไมครอน ระบาด ซ้ำเติมธุรกิจประกัน แนะผู้ประกอบการ ประเมินความเสี่ยงยอดเคลมสินไหมแผนรับมือ บอร์ดคปภ.เตรียมหารือมาตรการดูแลผู้เอาประกันเพิ่มเติม วันนี้หลังเดอะวัน ยังไม่มีความชัดเจนเพิ่มทุน

หุ้นเด่นวันนี้

– BTS-W8 (ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญบมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS)) เทรดวันนี้วันแรก มีจำนวน 2,632,536,229 หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ : 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาการใช้สิทธิ 14.90 บาทต่อหุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 5 ปี นับจากวันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ (22 พ.ย. 2564)ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาทต่อหน่วย กำหนดวันใช้สิทธิครั้งแรก 30 ธ.ค. 2564 ส่วนวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 20 พ.ย. 2569

– PLANET-W1 (ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญบมจ. แพลนเน็ต คอมมิวนิเคชั่น เอเชีย(PLANET)) เทรดวันนี้วันแรก มีจำนวน 124,998,821 หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ : 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาการใช้สิทธิ 2.00 บาทต่อหุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 2 ปี นับตั้งแต่วันที่ออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิ (19 พ.ย. 2564) ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาทต่อหน่วย กำหนดวันใช้สิทธิครั้งแรก 30 ธ.ค. 2564 ส่วนวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 18 พ.ย. 2566

– HANA (กรุงศรี) “ซื้อ”เป้าสูงสุด IAA Consensus 111 บาท คาดกำไรสุทธิ Q4/63 เติบโต qoq และ yoy จากการผลิตที่เพิ่มขึ้นเต็มกำลังการผลิต ค่าเงินบาทอ่อนค่าหนุนยอดขายและมาร์จิ้นเพิ่ม

– CHG (ฟินันเซีย ไซรัส) “ซื้อ”เป้า 4.70 บาท เป็นหลุมหลบภัยที่ดีหากเกิดการระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่เป็นวงกว้าง ซึ่งจะหนุนให้รายได้จากการรักษาและตรวจเชื้อยังคงอยู่ในระดับสูง และระยะสั้นกำไร Q4/64 คาดยังโตแรง +160% Y-Y จากรายได้เกี่ยวเนื่องโควิด-19 ที่สูงกว่าปีก่อน และรายได้ผู้ป่วยเงินสดและประกันสังคมที่กลับมาดีขึ้น โรงพยาบาล RPC และ 304 เข้าสู่ช่วงเติบโต และระยะยาวรองรับด้วยการลงทุนโรงพยาบาลใหม่ทั้งแม่สอด แพรกษา และศูนย์มะเร็ง พร้อมแนวรับ 3.78-3.80 บาท แนวต้าน 3.94-4.0 บาท

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 ธ.ค. 64)

Tags: , , ,
Back to Top