หุ้นไทยปิดเช้าพุ่ง 14.62 จุด เกิดเทคนิคเคิลรีบาวด์หลังลงลึกคล้ายตลาดภูมิภาค

SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,583.31 จุด เพิ่มขึ้น 14.62 จุด (+0.93%) มูลค่าการซื้อขายราว 56,899 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯเผยตลาดหุ้นไทยเช้านี้เกิดเทคนิคเคิลรีบาวด์หลังลงไปลึกเกือบ 100 จุด คล้ายตลาดภูมิภาคที่อิงบวก ท่ามกลางความกังวลการแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอกใหม่-การกลายพันธุ์โควิดที่ชื่อ”โอไมครอน” อีกทั้งเฟดก็จะเริ่งปรับลดทำ QE ด้วยแต่ตลาดฯก็รับรู่ส่วนหนึ่งแล้ว ทั้งนี้ตลาดฯกำลังรอปัจจัยใหม่หนุน-รอดูพัฒนการวัคซีนต้านโควิดโอไมครอน รวมถึงรอดูโอไมครอนจะเล็ดลอดเข้าไทยหรือไม่ด้วย และแต่ละประเทศจะมี Action อย่างไรเมื่อเจอโอไมครอน บ่ายนี้ตลาดฯน่าจะยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันที่ 1,570 ได้ ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 1,590 จุด

ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,583.31 จุด เพิ่มขึ้น 14.62 จุด (+0.93%) มูลค่าการซื้อขายราว 56,899 ล้านบาท

การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ โดยทำระดับสูงสุด 1,585.30 จุด และระดับต่ำสุด 1,563.04 จุด

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการอาวุโสนักกลยุทธ์การลงทุน ฝ่ายวิจัย บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวขึ้นเป็นการเกิดเทคนิคเคิลรีบาวด์คล้ายตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่มีกรเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบสลับกัน แต่จะอิงไปทางบวกมากกว่า โดยตลาดบ้านเราก็ติดลบบ้างในระหว่างทาง แต่ก็สามารถกลับมายืนในแดนบวกได้ หลังจากที่ดัชนีฯได้ปรับตัวลงไปมากเกือบ 100 จุดในช่วงไม่กี่วันมานี้ ท่ามกลางความกังวลการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ และการกลายพันธุ์ของเชื้อโควิดที่ชื่อ”โอไมครอน” อีกทั้งธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ก็จะเร่งปรับลดโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ซึ่งคาดว่าเฟดอาจจะยุติการทำ QE ในช่วงกลางปี 65 ทำให้ตลาดต่างจับตามอง แต่ตลาดฯก็รับรู้ไปส่วนหนึ่งแล้ว

ทั้งนี้ ตลาดฯกำลังรอปัจจัยใหม่หนุน และรอดูพัฒนาการของวัคซีนที่จะมาต้านเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์โอไมครอน รวมไปถึงมีการจับตาดูว่าเชื้อโอไมครอนจะเล็ดลอดเข้ามาในไทยหรือไม่ด้วย อีกทั้งติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิดสายพันธุ์โอไมครอนจะรุนแรงแค่ไหน แต่ละประเทศจะมี Action อย่างไรบ้างหากเจอเชื้อโอไมครอน

แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายวิจิตร กล่าวว่า ตลาดฯน่าจะยืนได้เหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันที่ 1,570 จุดได้ ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 1,590 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 4,159.25 ล้านบาท ปิดที่ 135.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท

KCE มูลค่าการซื้อขาย 1,682.56 ล้านบาท ปิดที่ 88.00 บาท ลดลง 4.00 บาท

ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,517.03 ล้านบาท ปิดที่ 209.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท

EA มูลค่าการซื้อขาย 1,423.19 ล้านบาท ปิดที่ 80.50 บาท ลดลง 1.50 บาท

PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,416.29 ล้านบาท ปิดที่ 36.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 ธ.ค. 64)

Tags: , ,
Back to Top