หุ้นไทยปิดลบ 3.65 จุด แกว่งแคบรอคืบหน้าโอไมครอน-บิ๊กแคปกดดัน/สัปดาห์หน้าตลาดไปไม่ไกล

SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,588.19 จุด ลดลง 3.65 จุด (-0.23%) มูลค่าการซื้อขาย 55,196.93 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯเผยตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งแคบในช่วงรอดูความคืบหน้าของไวรัสโควิดสายพันธุ์โอไมครอน เป็นปัจจัยหลักที่จะต้องติดตามเพราะยังไม่ชัดเจน โดยตลาดฯได้รับแรงกดดันจากหุ้นขนาดใหญ่หลังเงินบาทอ่อนค่ามาก-หวั่น Fund Flow ไหลออก ด้นตลาดภูมิภาคแกว่งบวก-ลบ ยกเว้นตลาดหุ้นเวียดนามร่วงแรงหลังเจอผู้ติดเชื้อโอไมครอน ส่วนตลาดยุโรปเทรดบ่ายนี้รีบาวด์หลังร่วงแรงไปหลายวันที่ผ่านมา สัปดาห์หน้าตลาดฯคงจะไปไหนไม่ไกล-รอดูความคืบหน้าโอไมครอน-ตลาดทำการแค่ 3 วันเอง พร้อมให้แนวรับ 1,570-1,550 แนวต้าน 1,600 จุด

  • ตลาดหลักทรัพย์ ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,588.19 จุด ลดลง 3.65 จุด (-0.23%) มูลค่าการซื้อขาย 55,196.93 ล้านบาท
  • การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ โดยดัชนีทำระดับสูงสุด 1,597.25 จุด และระดับต่ำสุด 1,587.53 จุด
  • ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 497 หลักทรัพย์ ลดลง 995 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 679 หลักทรัพย์

น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งแคบเป็นไปตามที่คาดไว้ เนื่องจากอยู่ในช่วงของการรอดูความคืบหน้าของไวรัสโควิดสายพันธุ์โอไมครอน ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่จะต้องติดตามเพราะยังไม่มีความชัดเจน ทำให้ตลาดฯไม่ไปไหนไกล โดยตลาดฯยังได้รับแรงกดดันจากหุ้นขนาดใหญ่ที่ปรับตัวลง หลังเงินบาทอ่อนค่ามาก ล่าสุดมาแถว 33.85 บาท/ดอลลาร์ฯ ทำให้ต้องระวัง Fund Flow ไหลออก

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียวันนี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบเล็กน้อย ยกเว้นตลาดหุ้นเวียดนามที่ปรับตัวลงไปมาก หลังจากที่พบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์โอไมครอน ส่วนตลาดในยุโรปเทรดบ่ายนี้ก็บวกได้ ซึ่งมองเป็นการรีบาวด์หลังจากที่ปรับตัวลงไปมากในช่วงก่อนหน้านี้

แนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้า น.ส.ธีรดา กล่าวว่า ตลาดฯคงจะยังไม่ไปไหนไกล เพราะยังต้องรอดูความคืบหน้าของเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์โอไมครอน และสัปดาห์หน้าก็จะมีวันทำการแค่ 3 วันเองด้วย พร้อมให้แนวรับ 1,570-1,550 จุด ส่วนแนวต้าน 1,600 จุด

“ตอนนี้คงจะต้องไปรอดูการประชุมหลายธนาคารกลางในช่วงกลางเดือนนี้มากกว่า โดยธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะประชุมในวันที่ 14-15 ธ.ค., ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ประชุม 16 ธ.ค., ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ประชุม 16 ธ.ค. และธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ประชุม 16-17 ธ.ค.”น.ส.ธีรดา กล่าว

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,712.14 ล้านบาท ปิดที่ 134.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

EA มูลค่าการซื้อขาย 1,528.61 ล้านบาท ปิดที่ 82.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท

PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,348.50 ล้านบาท ปิดที่ 36.75 บาท ลดลง 0.50 บาท

MAKRO มูลค่าการซื้อขาย 1,239.64 ล้านบาท ปิดที่ 45.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,232.02 ล้านบาท ปิดที่ 212.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 ธ.ค. 64)

Tags: , ,
Back to Top