กทม.เร่งตรวจคัดกรองโควิด กำชับสถานประกอบการเข้มมาตรการหลังมีสัญญาณติดเชื้อเพิ่ม

พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์โควิด-19 ในภาพรวมปัจจุบัน พบจำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตลดลงกว่าที่คาดการณ์ โดยผู้ป่วยอาการหนักมีแนวโน้มคงที่ แต่อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่า กรุงเทพฯ และพื้นที่นำร่องท่องเที่ยวอีก 6 จังหวัด เริ่มมีสัญญาณพบผู้ที่ติดเชื้อในชุมชน และสถานประกอบการเพิ่มขึ้น

กทม. จึงได้จัดชุดตรวจบูรณาการร่วม ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ของกรุงเทพมหานคร (เจ้าหน้าที่เทศกิจ เจ้าหน้าที่สิ่งแวดล้อม เจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชน) ตำรวจ ทหาร และผู้เกี่ยวข้องออกตรวจสถานบันเทิง สถานประกอบการ ร้านอาหาร และแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่กรุงเทพฯ ให้ปฏิบัติตามมาตรการควบคุมป้องกันโรคตามที่ทางราชการกำหนด รวมถึงประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เพิ่มความเข้มงวดมาตรการกวดขันตรวจสอบสถานประกอบการที่มีการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้เป็นไปตามมาตรฐาน SHA

นอกจากนี้ ชุดตรวจบูรณาการร่วม ได้ตรวจสถานที่แหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ สร้างความตระหนักรู้ เน้นย้ำความร่วมมือของผู้ประกอบการ เจ้าของกิจการ และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติให้ปฏิบัติตามมาตรการ COVID Free Setting โดยเฉพาะด้านสิ่งแวดล้อม สถานที่ ด้านตัวบุคลากรที่ให้บริการ และผู้รับบริการ ต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันควบคุมโรคอย่างเคร่งครัด โดยมาตรการจำเป็นที่ต้องปฏิบัติ ได้แก่ การเว้นระยะห่างระหว่างกัน หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับผู้อื่นโดยไม่จำเป็น การสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ต้องดูแล ล้างมือตนเอง ซึ่งเจ้าของสถานที่ต้องจัดให้มีจุดบริการเจลหรือแอลกอฮอล์ล้างมืออย่างทั่วถึงเพียงพอ ต้องจัดให้มีเครื่องมือสำหรับตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย ตรวจหาเชื้อโควิด-19 และให้มีการใช้แอปพลิเคชันไทยชนะก่อนเข้า-ออกสถานที่

พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า นอกจากนี้ กทม. ได้ดำเนินมาตรการการตรวจคัดกรองเชิงรุกค้นหาผู้ติดเชื้อโควิด-19 โดยสุ่มตรวจในชุมชน ตลาด สถานประกอบการ เป็นประจำทุก 2 เดือน (Sentinel Surveillance) ซึ่งได้ดำเนินการต่อเนื่องตลอดปี 2564 และจะดำเนินการต่อเนื่องไปถึงปี 2565 ด้วย ซึ่งหากพบผู้ติดเชื้อในลักษณะเป็นกลุ่มก้อน (คลัสเตอร์) จะมีการตรวจหาเชื้อในผู้สัมผัสเสี่ยงสูง (Active Case Finding) ทุกคนโดยเร็ว เพื่อนำผู้ป่วยเข้าสู่ระบบการรักษา (แยกกัก) ให้เร็วที่สุดเพื่อแยกผู้ป่วยออกจากผู้สัมผัส เพื่อควบคุม ป้องกัน และช่วยลดการแพร่ระบาดของโรค

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 ธ.ค. 64)

Tags: , , , ,
Back to Top