ดาวโจนส์ปิดลบ 29.79 จุด, Nasdaq ร่วงหนักจากแรงขายหุ้นเทคโนฯ

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (16 ธ.ค.) ขณะที่ดัชนี Nasdaq ร่วงลงเกือบ 2.5% เนื่องจากเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีซึ่งมีความอ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีหน้า

  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,897.64 จุด ลดลง 29.79 จุด หรือ -0.08%,
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,668.67 จุด ลดลง 41.18 จุด หรือ -0.87% และ
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,180.43 จุด ร่วงลง 385.15 จุด หรือ -2.47%

แฟรงค์ เกรนซ์ นักวิเคราะห์จากบริษัท Wellington Shields กล่าวว่า “ภาวะการซื้อขายเมื่อคืนนี้เป็นไปในลักษณะหมุนเวียนกลุ่มลงทุน (Sector Rotation) โดยนักลงทุนเทขายหุ้นเติบโต (Growth Stocks) ซึ่งมีความอ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย เช่นหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และหันไปซื้อหุ้นคุณค่า (Value Stocks) ซึ่งเป็นหุ้นที่ปรับตัวตามภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งรวมถึงหุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มพลังงาน การลงทุนในลักษณะดังกล่าวสะท้อนถึงมุมมองของนักลงทุนที่ว่า ภาวะทางธุรกิจท่ามกลางอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นจะส่งผลกระทบต่อหุ้น Growth Stocks ในวันข้างหน้า”

ทั้งนี้ หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลงหลังจากเฟดประกาศยุติโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในเดือนมี.ค.2565 และส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีหน้า โดยหุ้น Nvidia ดิ่งลง 6.8% หุ้นเทสลา ร่วงลง 5.03% หุ้นแอปเปิล ร่วงลง 3.93% หุ้นแอมะซอน ร่วงลง 2.56% หุ้นไมโครซอฟท์ ร่วงลง 2.91% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ ดิ่งลง 2.31% หุ้นอัลฟาเบท ลดลง 1.36%

หุ้นกลุ่มธนาคารได้แรงหนุนจากการที่เฟดส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีหน้า โดยหุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา พุ่งขึ้น 2.41% หุ้นโกลด์แมน แซคส์ พุ่งขึ้น 1.91% หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ บวก 0.87% หุ้นเจพีมอร์แกน ดีดขึ้น 1.56%

หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้นตามทิศทางราคาน้ำมัน โดยหุ้นโคโนโคฟิลลิปส์ พุ่งขึ้น 1.4% หุ้นเอ็กซอน โมบิล เพิ่มขึ้น 0.18% หุ้นเชฟรอน พุ่งขึ้น 0.93% หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน พุ่งขึ้น 1.3%

หุ้นไฟเซอร์ พุ่งขึ้น 4.17% หลังจากทีมนักวิทยาศาสตร์ของสถาบันวิจัยด้านสุขภาพแห่งแอฟริกาใต้เปิดเผยรายงานล่าสุดว่า ผู้ที่เคยติดเชื้อโควิด-19 มาก่อนหน้านี้และได้รับวัคซีน 2 โดสของบริษัทไฟเซอร์/ไบออนเทค อาจมีภูมิคุ้มกันที่แข็งแกร่งมากขึ้นในการป้องกันไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านพุ่งขึ้น 11.8% ในเดือนพ.ย. สู่ระดับ 1.679 ล้านยูนิต ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.568 ล้านยูนิต จากระดับ 1.502 ล้านยูนิตในเดือนต.ค.

ทางด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 18,000 ราย สู่ระดับ 206,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 195,000 ราย

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 ธ.ค. 64)

Tags: , , ,
Back to Top