WFX ปิดที่ 8.45 บาท สูงกว่าราคา IPO 17.36%

ราคาหุ้น WFX ปิดที่ 8.45 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท หรือ 17.36% มูลค่าซื้อขาย 2,731.14 ล้านบาท จากราคาเปิด 9.35 บาท ราคาขึ้นไปสูงสุด 9.70 บาท ราคาต่ำสุด 8.40 บาท

บล.ทิสโก้ ระบุในบทวิเคราะห์ว่า จากการประมาณการเบื้องต้น บมจ.เวิลด์เฟล็กซ์ (WFX) มีมูลค่าที่เหมาะสมในปี 2565 ที่ 10.37 บาท (อิงบริษัทในกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีลักษณะการดำเนินธุรกิจใกล้เคียงกันที่ P/E 15 เท่า)

บริษัทมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีจากแผนการเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจ ซึ่งช่วยหนุนทั้งรายได้ และอัตรากำไรจาก Economy of scale ทั้งยังคาดว่าบริษัทจะยังคงได้รับประโยชน์จากการระบาดของโควิด-19 ที่ทำให้อุปสงค์อุปกรณ์ทางการแพทย์อย่าง หน้ากาก หรือชุด PPE ที่เพิ่มขึ้น (จาก Omicron ที่ทำให้มีการสต็อกสินค้าประเภทนี้เพิ่มขึ้น)

ประกอบกับการ Synergy กับ บมจ.ไทยรับเบอร์ลาเท็คซ์กรุ๊ป (TRUBB) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ (ผู้ผลิตต้นน้ำ) ช่วยทำให้บริษัทสามารถควบคุมต้นทุนได้ และมีความสามารถในการแข่งขันเพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ จากแผนเชิงรุกในการขยายตลาดสู่ต่างประเทศเพื่อให้ครอบคลุมทั่วโลกมากขึ้น และการเน้นจำหน่ายแก่ลูกค้ารายใหม่ที่เป็น End-user (มีอัตรากำไรสูงกว่าการจำหน่ายแก่ Distributor) จะช่วยหนุนทั้งรายได้จากฐานลูกค้าใหม่ๆ และอัตรากำไรของบริษัทในอนาคต สำหรับปัจจัยเสี่ยงที่ต้องระวังของ WFX คือ การใช้กำลังการผลิตต่ำกว่าคาด, การแข่งขันที่สูงซึ่งอาจกดดันอัตรากำไร และอัตราแลกเปลี่ยน

WFX เป็นบริษัทย่อยของ TRUBB โดยเป็นผู้ผลิตเส้นด้ายยางยืดจากน้ำยางข้น ซึ่งสินค้าเส้นด้ายยางยืดจะนำไปเป็นส่วนประกอบในการผลิตสินค้าสำเร็จรูปประเภทต่างๆ เช่น เสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม ถุงเท้า ชุดชั้นใน อุปกรณ์ทางการแพทย์ เฟอร์นิเจอร์ เป็นต้น

ลักษณะสินค้าของบริษัทฯ แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ เส้นด้ายยางยืดชนิดเคลือบแป้ง (Talcum Rubber Thread) ซึ่งมีสัดส่วนรายได้ 93.34% และเส้นด้ายยางยืดชนิดเคลือบซิลิโคน (Silicone Rubber Thread) ซึ่งมีสัดส่วนรายได้ 6.33% โดยบริษัทมีลูกค้าทั้งแบบขายให้กับลูกค้าประเภทผู้จำหน่ายสินค้า (Distributor) และผู้ใช้งานโดยตรง (End-user) และแบ่งเป็นจำหน่ายให้แก่ลูกค้าทั้งในประเทศ (สัดส่วนรายได้ 1.12%) และต่างประเทศ(สัดส่วนรายได้ 98.88% โดยมากสุดในประเทศจีนที่ 76.09%)

WFX มีแผนมีที่จะลงทุนในการก่อสร้างโรงงานการผลิตและเครื่องจักรเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตเส้นด้ายยางยืด(ชนิดเคลือบแป้ง) กำลังการผลิตติดตั้งรวมประมาณ 12,400 ตันต่อปี มูลค่าประมาณ 740 ล้านบาท แบ่งเป็น 2 เฟส โดยเฟสที่ 1 มีกำลังการผลิตติดตั้งประมาณ 6,200 ตันต่อปี และคาดว่าจะเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในช่วงต้นของไตรมาส 3/65 ส่วนเฟสที่ 2 มีกำลังการผลิตติดตั้งประมาณ 6,200 ตันต่อปี และคาดว่าจะเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในช่วงต้นของไตรมาส 1/66 โดยเป็นการขยายโรงงานการผลิตในบริเวณพื้นที่เดียวกันกับที่ตั้งโรงงาน ในปัจจุบันที่อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 ธ.ค. 64)

Tags: , ,
Back to Top