JAK ขายหุ้น IPO เกลี้ยงสะท้อนความเชื่อมั่นคาดเทรดวันแรก 18 ม.ค.แรงตอบรับดี

นายชนะชัย จุลจิราภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล. เอเอสแอล ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน (IPO) ของ บมจ.จักรไพศาล เอสเตท (JAK) เปิดเผยว่า การเปิดจองซื้อหุ้น IPO ของ JAK ระหว่างวันที่ 8, 11 และ 12 ม.ค.64 มีนักลงทุนให้ความสนใจเข้ามาจองซื้อเต็มจำนวน สะท้อนความเชื่อมั่นที่มีต่อปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งของ JAK ทั้งศักยภาพการเติบโตในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

แม้ในปี 63 ที่ผ่านมาจะต้องเผชิญกับสถานการณ์โควิด-19 แต่ JAK ยังคงความสามารถในการบริหารจัดการด้วยความเป็นมืออาชีพ ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นในงวด 9 เดือนแรกของปี 63 ยังอยู่ในระดับสูงกว่า 50% และมองว่าแม้เป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่มีขนาดไม่ใหญ่นัก แต่ก็มีจุดเด่นและโอกาสในการขยายโครงการในอนาคตบนทำเลศักยภาพ ดังนั้น จึงมั่นใจว่า JAK จะได้รับการตอบรับอย่างต่อเนื่องในวันเข้าซื้อขายเป็นวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในหมวดอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง (PROPCON) วันที่ 18 ม.ค.64 นี้

ทั้งนี้ JAK เสนอขายหุ้น IPO จำนวน 82,709,900 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1.00 บาท กำหนดราคาเสนอขาย IPO หุ้นละ 1.45 บาท โดยมีผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย 3 แห่ง ประกอบด้วย บล.ไอร่า บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) และ บล.โกลเบล็ก

นายวรชาติ ทวยเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟินเน็กซ์ แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน JAK กล่าวเสริมว่า JAK จะเป็นอีกหุ้นเด่นที่น่าสนใจ โครงการของบริษัทเป็นที่ยอมรับทั้งในด้านคุณภาพและการบริการที่ดี ผู้บริหารอยู่ในพื้นที่จริง มีประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญ พัฒนาโครงการประสบความสำเร็จมาหลายโครงการ และมีเป้าหมายสร้างการเติบโตให้ JAK เป็นผู้นำทางด้านที่อยู่อาศัยหลังแรกของกลุ่มคนระดับกลางถึงล่างในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ปริมณฑล สระบุรี และภาคตะวันออก ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ

โดย JAK มีแผนพัฒนาโครงการอย่างต่อเนื่อง ชัดเจน ปัจจุบันมีโครงการที่อยู่ระหว่างเปิดขาย 3 โครงการ อีกทั้ง มีโครงการในอนาคตที่มีแผนพัฒนารวมมูลค่าราว 1,422 ล้านบาท ภายหลังการเข้ามาระดมทุน จึงมองว่าจะสนับสนุนแผนการเติบโตในระยาว และมีโอกาสก้าวกระโดดในปี 64 ได้

นอกจากนี้ บริษัทมีที่ดินในมือรอการพัฒนาโครงการในอนาคตที่บริษัทเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินแล้ว จำนวน 2 แปลง ได้แก่ ที่ดินอำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี และที่ดินตั้งอยู่ที่ซอยนวลจันทร์ เขตบึงกุ่ม กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นที่ดินตั้งบนทำเลที่มีศักยภาพ ทำให้ JAK มีที่ดินเพียงพอสำหรับการพัฒนาในระยะ 3-5 ปีข้างหน้า

นายวีระพันธ์ จักรไพศาล กรรมการผู้จัดการ JAK เปิดเผยว่า เงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ประมาณ 120 ล้านบาท (ก่อนหักค่าธรรมเนียมการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่าย และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้) จะนำไปใช้เป็นเงินทุนพัฒนาโครงการ และ/หรือ การลงทุนในที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการ 59.96 ล้านบาท ชำระคืนหนี้ธนาคาร 41.98 ล้านบาท และเป็นเงินทุนหมุนเวียน ในการดำเนินธุรกิจและการดำเนินการอื่นใดเพื่อให้เกิดผลประโยชน์สูงสุดต่อบริษัท 17.99 ล้านบาท ระยะเวลาใช้เงินทั้งหมดภายในปี 64 เพื่อรองรับการขยายโครงการ ลดต้นทุนทางการเงิน

บริษัทมีจุดแข็ง คือ การนำเทคโนโลยีเข้ามาเป็นส่วนสำคัญในกระบวนการทำงาน ทำให้บริษัทสามารถบริหารต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นมีการเติบโตเฉลี่ยสูงถึงกว่า 50% ต่อปีในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (ปี 60-62) เทียบกับอุตสาหกรรมเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 30%

ปัจจุบัน JAK กลุ่มครอบครัวจักรไพศาล ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ถือหุ้นรวมกัน 69.30% และในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ยินดีติดไซเรนท์ พีเรียด และไม่มีนโยบายที่จะขายหุ้นออกไป เพราะเป็นธุรกิจที่ครอบครัวสร้างมากับมือ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 ม.ค. 64)

Tags: , , , , , , , , ,
Back to Top