RBF ตั้งเป้ายอดขายปี 64 โต 10-12% รับส่งออกขยายตัว-รุกอาเซียนขยายฐานลูกค้า

นายสุรนาถ กิตติรัตนเดช ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบัญชีและการเงิน บมจ.อาร์ แอนด์ บี ฟู้ด ซัพพลาย (RBF) เปิดเผยว่า บริษัทวางเป้าหมายยอดขายปีนี้เติบโต 10-12% จากปีก่อน เป็นการเติบโตจากทั้งตลาดในประเทศสัดส่วนอยู่ที่ 85% และตลาดต่างประเทศ 15% โดยกลุ่มสินค้าที่จะยังเติบโตได้ดีในปีนี้ จะยังเป็นกลุ่มวัตถุแต่งรสและกลิ่น (Flavour) และกลุ่มเกล็ดขนมปัง แป้งและซอส (Food Coating) ในสัดส่วนที่เท่ากัน 50:50 อย่างไรก็ตามหลังจากที่บริษัทรุกขยายฐานตลาดต่างประเทศมากขึ้น เชื่อว่าภายใน 3-5 ปียอดขายจากต่างประเทศจะมีสัดเพิ่มขึ้นเป็น 20-25% แน่นอน

ทั้งนี้ ภาพรวมของตลาดต่างประเทศจะยังเติบโตดีต่อเนื่องทั้งอินโดนีเซียและเวียดนาม เนื่องจากทั้ง 2 ประเทศถือเป็นผู้ส่งออกอาหาร และ มีขนาดตลาดค่อนข้างใหญ่ จึงมีความต้องการผลิตภัณฑ์วัตถุที่ใช้เป็นส่วนผสมในอาหาร (Food Ingredients) อีกมาก โดยเฉพาะกลุ่มเกล็ดขนมปัง แป้งและซอส (Food Coating) และ วัตถุแต่งรสและกลิ่น ดั้งนั้น เฉพาะที่อินโดนีเซียและเวียดนาม บริษัทจะเติบโตค่อนข้างมาก

ส่วนในประเทศสิงคโปร์ ขณะนี้สถานการณ์โควิด-19 เริ่มปรับตัวดีขึ้น และเริ่มมีการฉีดวัคซีนแล้ว น่าจะทำให้ธุรกิจของบริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้นพอสมควร

บริษัทยังมีแผนจะขยายฐานลูกค้าใหม่ในต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น ด้วยการจะเข้าไปลงทุนโรงงานผลิตแป้งและซอส วัตถุแต่งรสและกลิ่น ที่เมืองซูราบายา ในประเทศอินโดนีเซีย มูลค่าลงทุนรวม 200-250 ล้านบาท ปัจจุบันอยู่ระหว่างพิจารณาทำเลสร้างโรงงาน และรอให้สถานการณ์โควิด-19 ผ่อนคลายลงก่อน คาดว่าภายในปีนี้จะได้ข้อสรุปชัดเจน

พ.ท.พญ.จัณจิดา รัตนภูมิภิญโญ กรรมการบริษัท ของ RBF กล่าวว่า แม้ขณะนี้ประเทศไทยจะเกิดวิฤกติการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ ส่งผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจและกำลังซื้อในประเทศ แต่บริษัทมั่นใจว่าจะมีการเติบโตไม่ต่ำกว่าปีที่แล้ว รับปัจจัยบวกจากการส่งออกที่ขยายตัวขึ้น โดยเฉพาะในตลาดอาเซียน เนื่องจากเป็นฐานของครัวโลก ขณะที่ลูกค้าบริษัทมีการลงทุนเพิ่ม ทั้งจำนวนรายการสินค้าและผลิตสินค้าใหม่ที่มากขึ้น เพื่อทำตลาดในประเทศและส่งออกต่างประเทศ ส่วนกำลังซื้อในประเทศมองว่าเป็นปีของผู้ซื้อเนื่องจากอั้นการจับจ่ายมาจากปีที่ผ่านมา

ส่วนแผนการดำเนินธุรกิจในปีนี้ บริษัทยังเดินหน้าขยายตลาดและเพิ่มฐานลูกค้าใหม่ รวมถึงมุ่งวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าเพื่อสุขภาพ ซึ่งกำลังเป็นเทรนด์ผู้บริโภคปัจจุบัน ทำให้มีออร์เดอร์ใหม่จากลูกค้าเข้ามาจำนวนมาก รวมถึงยังจะเน้นกลุ่มสินค้าอาหารสัตว์ด้วย เพราะเป็นตลาดที่กำลังเติบโตสูงจากจำนวนคนที่เลี้ยงสัตว์เพิ่มขึ้น

“แม้จะมีโควิด-19 ระลอกใหม่ แต่บริษัทยังมีออร์เดอร์เข้ามาเป็นปกติ โดยลูกค้าหันมาทำตลาดเพื่อสุขภาพมากขึ้น เพื่อตอบโจทย์เทรนด์ของคนรักสุขภาพปัจจุบัน โดยเห็นได้จากที่กลุ่มวิตามินเข้ามาแล้วทำให้ตลาดสุขภาพเติบโตสูง”

พ.ท.พญ.จัณจิดา กล่าว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 ม.ค. 64)

Tags: , , , ,
Back to Top