ไทยพบผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ 756 ราย พบจากตรวจเชิงรุก 724 ในประเทศ 22

  • ศบค.สรุปยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในไทย วันนี้ (11.30 น.)
  • ผู้ติดเชื้อสะสม 16,221 คน (+756)
    • เป็นผู้ป่วยรายใหม่จากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ = 22 ราย
    • เป็นผู้ติดเชื้อจากการตรวจเชิงรุกในชุมชน = 724 ราย
    • เป็นผู้ติดเชื้อจากต่างประเทศอยู่ในสถานกักกันที่รัฐจัดให้ (State Quarantine) = 10 ราย
  • รักษาหายแล้ว 11,287 คน (+233)
  • เสียชีวิตสะสม 76 คน (+0)

ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 756 ราย ประกอบด้วย ผู้ติดเชื้อในประเทศ จากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการฯ 22 ราย จากสมุทรสาคร 9 ราย กรุงเทพมหานคร 8 ราย นนทบุรี 1 ราย พระนครศรีอยุธยา 1 ราย สมุทรปราการ 3 ราย, จากค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน 724 ราย จากสมุทรสาครทั้งหมด, ส่วนผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ทั้งหมด 10 ราย มาจากโปรตุเกส 1 ราย รัสเซีย 2 ราย อินโดนีเซีย 1 ราย กาตาร์ 1 ราย และสหรัฐอเมริกา 5 ราย 

สำหรับจำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมในประเทศล่าสุดอยู่ที่ 16,221 ราย แบ่งเป็นผู้ป่วยที่ติดเชื้อภายในประเทศ 6,832 ราย และการตรวจคัดกรองเชิงรุก 6,972 ราย ส่วนผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 2,417 ราย โดยมีผู้ป่วยรักษาหายแล้ว 11,287 ราย เพิ่มขึ้น 233 ราย ยอดเสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 76 ราย

พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษก ศบค. เปิดเผยว่า ข้อมูลจากกระทรวงการต่างประเทศ รายงานว่าจากสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในทั่วโลก มีคนไทยจากต่างประเทศที่เดินทางกลับเข้ามาในราชอาณาจักร ตั้งแต่ 3 เม.ย.63 – 27 ม.ค.64 ซึ่งเป็นการเดินทางเข้ามาทางเครื่องบิน รวมแล้วทั้งสิ้น 120,730 คน ส่วนคนต่างชาติที่เดินทางเข้ามาประเทศไทย ในช่วงวันที่ 9 ก.ค.63 – 27 ม.ค.64 อีก 73,055 คน

ขณะที่ข้อมูลจากกระทรวงกลาโหม รายงานยอดผู้ที่ต้องเข้ารับการกักตัวในสถานที่กักตัวของรัฐ (State Quarantine) หรือ SQ ตั้งแต่ 3 เม.ย.63 – 27 ม.ค.64 รวมกับการกักตัวที่สถานกักตัวทางเลือก (Alternative State Quarantine) หรือ ASQ ตั้งแต่ 1 พ.ค.63 – 27 ม.ค.64 มีจำนวนทั้งสิ้น 186,115 ราย ซึ่งในจำนวนนี้กลับบ้านไปแล้ว 117,624 ราย และยังเหลือกักตัวอีก 11,491 ราย ส่วนกระทรวงมหาดไทย รายงานจำนวนผู้เข้ารับการกักตัวที่สถานกักตัวในพื้นที่ต่างจังหวัด (Local Quarantine) อีก 418 แห่งทั่วประเทศ มีจำนวนทั้งสิ้น 49,621 ราย

สำหรับสถานการณ์ภายในประเทศ ช่วง 7 วันที่ผ่านมา (21 – 28 ม.ค.) จะพบว่า มีจังหวัดที่ไม่มีผู้ติดเชื้อติดต่อกันในรอบ 7 วันที่ผ่านมาถึง 47 จังหวัด ซึ่งเมื่อรวมกับจังหวัดที่ไม่เคยพบผู้ติดเชื้อเลย 14 จังหวัด รวมเป็น 61 จังหวัดที่ถือว่าเป็นพื้นที่ปลอดภัย (Safe Zone) ซึ่งในพื้นที่ดังกล่าวนี้ มีแนวโน้มจะได้รับการผ่อนคลายมาตรการเพิ่มขึ้นจากการประชุม ศบค.ชุดใหญ่วันพรุ่งนี้ (29 ม.ค.)

“กลุ่มนี้เป็นกลุ่ม Safe Zone ซึ่งจะเห็นได้ว่ามีมากถึง 61 จังหวัด ตัวเลขเหล่านี้ จะนำเสนอ ศบค.ชุดใหญ่พรุ่งนี้ให้พิจารณา ซึ่งถ้าไม่มีผู้ติดเชื้อติดต่อกันมา 7 วัน หรือบางจังหวัดอาจไม่มีผู้ติดเชื้อติดต่อกันนานถึง 14 วัน ก็อาจจะได้รับการผ่อนปรนมาตรการต่างๆ มากกว่าจังหวัดอื่นๆ ที่เป็นพื้นที่สีส้ม สีแดง”

ผู้ช่วยโฆษก ศบค.กล่าว

พญ.อภิสมัย กล่าวถึงกรณีการผ่อนคลายมาตรการในกิจการหรือสถานที่แต่ละประเภท โดยยอมรับว่า ศบค.ยังมีความหนักใจ เนื่องจากยังมีความเห็นต่างกันอยู่ เช่น การเปิดสถานศึกษา หากมีคำสั่งให้เปิดเรียน จะมีมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดได้หรือไม่ แต่หากยังมีคำสั่งปิดอยู่ จะมีการดูแลด้านการเรียนการสอนอย่างไรให้เหมาะสมกับกลุ่มนักเรียนในแต่ละช่วงวัย เป็นต้น

โดยที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่วันพรุ่งนี้ จะมีการออกมาตรการที่เป็นหลักการในกรอบใหญ่ ซึ่งแต่ละจังหวัดเองจะมีอำนาจในการออกมาตรการเฉพาะพื้นที่ให้มีความเหมาะสมกับจังหวัดของตัวเอง

“ศบค.จะใช้ข้อมูลหลักฐานที่มีความละเอียดยิบย่อย ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากกระทรวงสาธารณสุข เป็นข้อมูลทางระบาดวิทยา แต่เราคงจะเฝ้าระวังเฉพาะการติดเชื้ออย่างเดียวไม่ได้ ศบค.ต้องพิจารณาเศรษฐกิจ สังคมและปัจจัยอื่นร่วมด้วย เพื่อนำไปตัดสินใจมาตรการที่จะนำเสนอในวันพรุ่งนี้”

ผู้ช่วยโฆษก ศบค.ระบุ

ส่วนสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก ล่าสุดจนถึงวันนี้ มียอดผู้ติดเชื้อสะสมรวมทั้งสิ้น 101,433,090 ราย เสียชีวิตแล้ว 2,184,120 ราย โดยประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด อันดับแรก คือ สหรัฐอเมริกา 26,166,201 ราย อันดับสอง อินเดีย 10,702,031 ราย อันดับสาม บราซิล 9,000,485 ราย อันดับสี่ รัสเซีย 3,774,672 ราย และอันดับห้า สหราชอาณาจักร 3,715,054 ราย โดยประเทศไทย อยู่ในอันดับที่ 120

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 ม.ค. 64)

Tags: , , , ,
Back to Top