ไทยมีผู้ติดเชื้อโควิดใหม่ 802 ราย พบจากตรวจเชิงรุก 692 ในประเทศ 89

  • ศบค.สรุปยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในไทย วันนี้ (11.30 น.)
  • ผู้ติดเชื้อสะสม 17,023 คน (+802)
    • เป็นผู้ป่วยรายใหม่จากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ = 89 ราย
    • เป็นผู้ติดเชื้อจากการตรวจเชิงรุกในชุมชน = 692 ราย
    • เป็นผู้ติดเชื้อจากต่างประเทศอยู่ในสถานกักกันที่รัฐจัดให้ (State Quarantine) = 19 ราย
    • เป็นผู้ติดเชื้อจากต่างประเทศไม่เข้าสถานที่กักกัน = 2 ราย
  • รักษาหายแล้ว 11,396 คน (+109)
  • เสียชีวิตสะสม 76 คน (+0)

ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 802 ราย ประกอบด้วย ผู้ติดเชื้อในประเทศ จากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการฯ 89 ราย ในสมุทรสาคร 79 ราย กรุงเทพมหานคร 7 ราย พระนครศรีอยุธยา 2 ราย อ่างทอง 1 ราย, จากค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน 692 ราย

ได้แก่ สมุทรสาคร 686 ราย กรุงเทพ 3 ราย นนทบุรี 1 ราย สระแก้ว 1 ราย ระยอง 1 ราย, ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ทั้งหมด 19 รายได้แก่ สหรัฐอเมริกา 3 ราย อินเดีย 2 ราย เยอรมนี 2 ราย เนเธอร์แลนด์ 2 ราย ซาอุดิอาระเบีย 2 ราย บาห์เรน 1 ราย อินโดนีเซีย 1 ราย เอธิโอเปีย 1 ราย สวีเดน 1 ราย สวิตเซอร์แลนด์ 1 ราย แอฟริกาใต้ 1 ราย สหราชอาณาจักร 1 ราย ออสเตรีย 1 ราย และผู้เดินทางจากต่างประเทศแต่ไม่ได้เข้าสถานที่กักกัน 2 ราย โดยมาจากเมียนมา 1 ราย และมาเลเซีย 1 ราย

สำหรับจำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมในประเทศล่าสุดอยู่ที่ 17,023 ราย แบ่งเป็นผู้ป่วยที่ติดเชื้อภายในประเทศ 6,921 ราย และการตรวจคัดกรองเชิงรุก 7,664 ราย ส่วนผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 2,438 ราย โดยมีผู้ป่วยรักษาหายแล้ว 11,396 ราย เพิ่มขึ้น 109 ราย ยอดเสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 76 ราย โดยสัดส่วนผู้ป่วยที่ติดเชื้อภายในประเทศส่วนใหญ่ 98% อยู่ในจังหวัดสมุทรสาคร อีก 1.2% อยู่ในกรุงเทพ และจังหวัดอื่นๆ 0.8%

ขณะที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกล่าสุดมียอดผู้ติดเชื้อสะสมรวมทั้งสิ้น 102,034,768 ราย เสียชีวิตแล้ว 2,200,910 ราย โดยประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด อันดับแรก คือ สหรัฐอเมริกา 26,338,607ราย อันดับสอง อินเดีย 10,720,971 ราย อันดับสาม บราซิล 9,060,786 ราย อันดับสี่ รัสเซีย 3,793,810 ราย และอันดับห้า สหราชอาณาจักร 3,743,734 ราย โดยประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 119

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (29 ม.ค. 64)

Tags: , , ,
Back to Top