“เม่าวอลล์สตรีท” เล็งถล่มเฮดจ์ฟันด์อีกรอบ หลังดันราคาโลหะเงินต่อจาก GameStop

ราคาโลหะเงินพุ่งขึ้นกว่า 11% แตะระดับสูงสุดในรอบ 8 ปีในวันนี้ หลังมีข่าวว่า กลุ่มนักลงทุนรายย่อยในตลาดหุ้นวอลล์สตรีทได้เล็งเป้าหมายใหม่เป็นโลหะเงินเพื่อดันราคาขึ้น หลังจากที่ได้ใช้กลยุทธ์ในลักษณะเดียวกันนี้กับหุ้น GameStop ซึ่งเป็นร้านจำหน่ายวิดีโอเกมชื่อดังในสหรัฐ เพื่อสั่งสอนกองทุนเฮดจ์ฟันด์รายใหญ่ที่มักเก็งกำไรด้วยการขายชอร์ตในตลาด

ทั้งนี้ สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.พุ่งขึ้นกว่า 11% สู่ระดับ 29.98 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.2556

นอกจากราคาโลหะเงินแล้ว ราคาหุ้นและกองทุนที่เกี่ยวข้องกับโลหะเงิน รวมทั้งหุ้นในกลุ่มเหมืองแร่ก็ได้ทะยานขึ้นในวันนี้เช่นกัน

รายงานระบุว่า กลุ่มนักลงทุนรายย่อยในห้อง WallStreetBets ซึ่งมีสมาชิกกว่า 7.6 ล้านรายบนเว็บบอร์ด Reddit ได้หันมาเล็งเป้าหมายตลาดโลหะเงินในขณะนี้ โดยชักชวนกันให้ทุ่มซื้อโลหะเงินเพื่อกดดันให้เฮดจ์ฟันด์ต้องกลับเข้าซื้อคืนสัญญาโลหะเงินเพื่อตัดขาดทุน หลังจากที่ได้ขายชอร์ตก่อนหน้านี้ โดยเก็งว่าราคาโลหะเงินมีแนวโน้มในช่วงขาลงต่อไป

แพลตฟอร์มซื้อขายสัญญาโลหะเงินหลายแห่ง ซึ่งรวมถึง Money Metals, SD Bullion, JM Bullion และ Apmex ต่างก็ไม่สามารถดำเนินการรับคำสั่งซื้อขายได้จนกระทั่งตลาดเอเชียเปิดทำการ เนื่องจากมีคำสั่งซื้อโลหะเงินจำนวนมากอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

สื่อรายงานว่า ปรากฎการณ์ GameStop ซึ่งได้สร้างความผันผวนในตลาดหุ้นวอลล์สตรีทเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ได้ส่งผลกระทบให้กองทุนเฮดจ์ฟันด์ ประสบภาวะขาดทุนอย่างหนัก โดยคาดว่าสูงถึง 19,000 ล้านดอลลาร์ หรือราว 570,000 ล้านบาท

ราคาหุ้น GameStop เคยพุ่งขึ้นถึง 1,700% ตั้งแต่ต้นปีนี้ โดยมีสาเหตุจากการที่นักลงทุนรายย่อยในตลาดหุ้นสหรัฐได้เล็งเป้าหมายที่จะผลักดันราคาหุ้น GameStop ให้สูงขึ้นเพื่อกดดันให้เฮดจ์ฟันด์ต้องกลับเข้าซื้อคืนหุ้นดังกล่าวเพื่อตัดขาดทุน หลังจากที่ได้ขายชอร์ตก่อนหน้านี้ โดยเก็งว่า GameStop จะต้องปิดกิจการในไม่ช้า

การกระทำดังกล่าวของนักลงทุนรายย่อยทำให้กองทุนเฮดจ์ฟันด์ประสบภาวะขาดทุนอย่างหนัก โดยคาดว่าในวันพุธที่ผ่านมาเพียงวันเดียว เฮดจ์ฟันด์ขาดทุนมากกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งในวันดังกล่าว ราคาหุ้น GameStop ได้พุ่งขึ้น 135%

ขณะนี้ มีความวิตกกันว่า หากหุ้น GameStop ยังคงพุ่งขึ้นต่อไป ก็จะทำให้เฮดจ์ฟันด์พากันเทขายหุ้นอื่นในตลาดเพื่อระดมเงินมาชดเชยผลขาดทุนจากการเก็งกำไรใน GameStop

นอกจากนี้ ยังมีความกังวลกันว่า ปรากฎการณ์ GameStop เป็นการส่งสัญญาณถึงการเกิดภาวะฟองสบู่ในตลาด ซึ่งหากฟองสบู่แตก ก็จะสร้างความตื่นตระหนก และกระทบนักลงทุนรายย่อยอย่างหนัก

ขณะเดียวกัน ปริมาณการซื้อขายหุ้นได้พุ่งขึ้นอย่างมากจากการที่นักลงทุนแห่ซื้อหุ้น GameStop โดยวอลุ่มการซื้อขายหุ้นในตลาดหุ้นวอลล์สตรีทได้พุ่งขึ้นมากกว่า 2.37 หมื่นล้านหุ้นเมื่อวันพุธที่ผ่านมา โดยสูงกว่าระดับสูงสุดที่เคยทำไว้ในช่วงเกิดวิกฤตการเงินในปี 2551

ปรากฎการณ์ GameStop ได้สร้างความกังวลต่อหลายฝ่ายในสหรัฐ ซึ่งได้แก่ ทำเนียบขาว สภาคองเกรส รวมทั้งคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ (SEC) ขณะที่นายวิลเลียม กาลวิน เลขาธิการรัฐแมสซาชูเซทส์ เรียกร้องให้ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE) สั่งระงับการซื้อขายหุ้น GameStop เป็นเวลา 30 วัน เพื่อลดความผันผวนในตลาด

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (1 ก.พ. 64)

Tags: , , , , ,
Back to Top