สธ.ออกประกาศมาตรฐานระบบบริการการแพทย์ทางไกล สกัดโควิด-19

นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า สธ.ได้ออกประกาศกำกับดูแลมาตรฐานการให้บริการของสถานพยาบาลโดยใช้ระบบบริการการแพทย์ทางไกล พ.ศ.2564 ในสถานพยาบาลเอกชนมุ่งคุ้มครองผู้บริโภคให้ได้รับความสะดวกในการรับบริการทางการแพทย์ที่ต่อเนื่อง ทั้งยังช่วยสร้างระยะห่างระหว่างบุคคล ลดการเดินทาง และความแออัดในสถานพยาบาล เพื่อป้องกันการระบาดของโรคโควิด-19

เนื่องจากปัจจุบันเทคโนโลยีในด้านการแพทย์ของประเทศไทยมีการพัฒนาเป็นอย่างมาก มีการนำระบบดิจิทัล (Digital) หรือเทเลเมดิซีน (Telemedicine) มาใช้อำนวยความสะดวกในการสื่อสารด้วยการส่งสัญญาณเสียงและภาพ เพื่อให้บริการด้านการแพทย์และสาธารณสุข และให้คำปรึกษาในการดูแลสุขภาพแก่ผู้ป่วย

“เป็นประโยชน์อย่างมาก ยิ่งในช่วงที่มีการระบาดระลอกใหม่ของโรคโควิด-19 การเว้นระยะห่างระหว่างบุคคลนับเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยหยุดการแพร่ระบาดของโรค การที่ผู้ป่วยหรือบุคคลใกล้ชิดต้องเดินทางออกจากที่พักมายังสถานพยาบาลก็อาจทำให้เกิดความแออัดหรือสุ่มเสี่ยงที่จะเกิดการติดต่อหรือแพร่กระจายโรคได้”

นพ.ธเรศ กล่าว

อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า ไม่ว่าจะเป็นการให้บริการทางการแพทย์ประเภทใดก็ตามจะต้องมีการดูแล กำกับมาตรฐานให้เกิดความปลอดภัยสูงสุดแก่ประชาชน ดังนั้นเพื่ออำนวยความสะดวกในการรับบริการทางการแพทย์อย่างต่อเนื่องแก่ผู้ป่วยที่อาการไม่ซับซ้อน หรือต้องพบแพทย์เป็นประจำ รวมทั้งคุ้มครองความปลอดภัยให้กับผู้รับบริการในสถานพยาบาลเอกชน กรมฯ จึงได้พัฒนากฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการทางการแพทย์ทางไกล และได้มีการประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา คือ ประกาศกระทรวงสาธารณสุขเรื่อง “มาตรฐานการให้บริการของสถานพยาบาลโดยใช้ระบบบริการการแพทย์ทางไกล พ.ศ.2564” โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา

ด้าน ทพ.อาคม ประดิษฐสุวรรณ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า สาระสำคัญคือการกำหนดให้สถานพยาบาลเอกชนที่ประสงค์จะให้บริการโดยระบบบริการการแพทย์ทางไกลต้องยื่นแบบคำขอบริการเพิ่มเติมต่อผู้อนุญาต คือ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดในพื้นที่ แต่หากมีการให้บริการการแพทย์ทางไกลอยู่แล้วให้ยื่นแบบคำขอบริการเพิ่มเติมต่อผู้อนุญาตภายใน 90 วันนับแต่ประกาศมีผลบังคับใช้ รวมทั้งผู้รับอนุญาตและผู้ดำเนินการสถานพยาบาลจะต้องจัดให้มีองค์ประกอบที่เหมาะสมในการให้บริการ อาทิ 1.จัดให้มีแพทย์ให้บริการในจำนวนที่เพียงพอต่อการให้บริการโดยตรง โดยจะต้องไม่มีผลกระทบต่อการให้บริการหลักอื่นๆ 2.จัดเตรียมแผนและอุปกรณ์การสื่อสารโทรคมนาคม เทคโนโลยีที่สามารถสื่อสารระหว่างกันได้อย่างชัดเจน และมีมาตรฐานการรักษาความมั่นคงด้านสารสนเทศ 3.มีการลงทะเบียน บันทึกข้อมูล รายงานผลการให้บริการ การตรวจสอบและการยืนยันกระบวนการการให้บริการทุกขั้นตอน 4.กำกับและดูแลผู้ประกอบวิชาชีพ ให้ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการประกอบวิชาชีพ และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง 5.มีการชี้แจงรายละเอียดก่อนการให้บริการ ขั้นตอนปฏิบัติ ผลที่อาจเกิดขึ้นจากการให้บริการทุกด้าน และความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นแก่ผู้รับบริการ ฯลฯ หากมีการฝ่าฝืนก็จะมีการดำเนินการเอาผิดตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ.2541 กับผู้รับอนุญาต หรือผู้ดำเนินการสถานพยาบาล

“นอกจากจะช่วยคุ้มครองประชาชนแล้วยังสร้างความเชื่อมั่นให้การตรวจ วินิจฉัย รักษาพยาบาล และป้องกันโรค ผ่านระบบดิจิทัลหรือเทเลเมดิซีนของสถานพยาบาลไทยว่าจะเป็นไปตามคุณภาพมาตรฐานที่กฎหมายกำหนด”

ทพ.อาคม กล่าว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (3 ก.พ. 64)

Tags: , , , ,
Back to Top