In Focus: บทเรียนหุ้น GameStop เกมมดล้มช้าง พลังเม่าฉุดยักษ์เฮดจ์ฟันด์ล้มไม่เป็นท่า

ในช่วงนี้หุ้น GameStop ในตลาดหุ้นนิวยอร์กยังคงเป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์ในแวดวงนักลงทุนหุ้นทั่วโลก หลังมีรายงานก่อนหน้านี้ว่า หุ้นที่ดูเหมือนจะไร้อนาคตตัวนี้ได้พุ่งทะยานขึ้นถึง 1700% ภายในเดือนม.ค. 2564 เพียงเดือนเดียว แตะระดับสูงสุดที่ 347.51 ดอลลาร์เมื่อวันที่ 27 ม.ค.ที่ผ่านมา แต่หุ้นตัวนี้กลับทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐผันผวนและร่วงลงอย่างหนักในสัปดาห์ที่ผ่านมา

และในสัปดาห์นี้ ราคาหุ้น GameStop ได้พลิกกลับมาเป็นขาลงแล้ว โดยปรับตัวลงอย่างต่อเนื่องและปิดตลาดล่าสุดเมื่อคืนนี้ ดิ่งลง 60.01% สู่ระดับ 90 ดอลลาร์ ซึ่งการร่วงลงของหุ้นตัวนี้กลับสวนทางกับตลาดหุ้นนิวยอร์กที่พุ่งขึ้นสองวันติดต่อกันแล้ว เพราะนักลงทุนมองว่าเฮดจ์ฟันด์ที่ขายชอร์ตหุ้นตัวนี้ไว้จะไม่ขาดทุนหรือขาดทุนน้อยลงเมื่อราคาหุ้นดังกล่าวปรับตัวลง และบรรดาเฮดจ์ฟันด์ก็ไม่ต้องขายหุ้นตัวอื่นๆ ในตลาดออกมาเพื่อชดเชยการขาดทุนด้วย ซึ่งก็ช่วยให้ตลาดโดยรวมมีความผันผวนลดน้อยลงนั่นเอง

In Focus สัปดาห์นี้ จะบอกเล่าเรื่องราวให้ผู้อ่านได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับหุ้น GameStop เหตุใดถึงมีการพูดถึงหุ้นตัวนี้ และทำไมหุ้นตัวนี้ถึงส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นนิวยอร์กโดยรวมได้ในช่วงนี้ ขณะที่ดูเหมือนว่า เมื่อไม่นานมานี้บรรดานักลงทุนรายย่อยหรือที่ถูกเรียกว่าเป็นแมงเม่าในตลาดหุ้นบ้านเราต่างก็รู้สึกสาแก่ใจที่พลพรรคพวกเดียวกันในตลาดหุ้นนิวยอร์กสามารถรวมพลังกันดันราคาหุ้น GameStop พุ่งติดจรวด จนส่งผลให้ยักษ์ใหญ่เฮดจ์ฟันด์หลายแห่งที่ขายชอร์ตหุ้นตัวนี้ไว้ต้องขาดทุนอ่วมเป็นหลักหลายพันล้านดอลลาร์

รู้จัก GameStop หุ้นในเกมมดล้มช้าง

GameStop เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ทำธุรกิจร้านขายปลีกวิดีโอเกมและเครื่องเล่นเกมต่างๆ โดยข้อมูล ณ วันที่ 1 ก.พ. 2563 ระบุว่า GameStop มีร้านค้าปลีก 5,509 สาขา และส่วนใหญ่อยู่ในสหรัฐ แคนาดา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และในยุโรป

แม้จะมีสาขาจำนวนมาก แต่ผลประกอบการและการคาดการณ์อนาคตทางธุรกิจของ GameStop ไม่สดใสนัก เนื่องจากพฤติกรรมของคนเล่นเกมยุคนี้ได้เปลี่ยนไปแล้ว พวกเขาหันไปซื้อเครื่องเล่นและเกมออนไลน์กันมากขึ้น ซึ่งส่งผลให้ GameStop ประสบภาวะขาดทุนมาโดยตลอด และราคาหุ้นของ GameStop ก็ร่วงลงเรื่อยๆ ด้วยจากประมาณ 45 ดอลลาร์/หุ้นในช่วงกลางปี 2558 เหลือเพียง 3.95 ดอลลลาร์/หุ้นในเดือนก.พ. 2563 เนื่องจากนักลงทุนเริ่มมองว่า ธุรกิจขายเกมผ่านร้านค้าปลีกเช่นนี้ไม่มีอนาคตอีกต่อไปแล้ว เพราะนับวันผู้บริโภคส่วนใหญ่จะหันไปซื้อเกมผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์กันมากขึ้น

ราคาหุ้นกลับเริ่มพลิกฟื้น หลังเห็นช่องทางปรับเปลี่ยนธุรกิจสู่ระบบออนไลน์

ราคาหุ้น GameStop เริ่มปรับตัวขึ้นนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2563 หลังจากนายไรอัน โคเฮน (Ryan Cohen) ซึ่งเป็นนักลงทุนรายใหญ่และเป็นผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Chewy ซึ่งทำธุรกิจขายอาหารสัตว์ทางออนไลน์จนประสบความสำเร็จ ได้เริ่มทยอยซื้อหุ้นของ GameStop และเขาได้เปิดเผยในช่วงเดือนพ.ย. 2563 ว่าเขาได้ซื้อหุ้นของ GameStop มาอยู่ในมือกว่า 10% แล้ว เพราะเชื่อว่า GameStop ยังพอมีอนาคตหากปรับตัว และหันไปขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์

เมื่อวันจันทร์ที่ 11 ม.ค. 2564 GameStop ได้แต่งตั้งไรอัน โคเฮน เป็นหนึ่งในกรรมการผู้จัดการของบริษัท และเชื่อว่าความเชี่ยวชาญด้านการขายสินค้าออนไลน์ของโคเฮนจะช่วยพลิกฟื้นบริษัทได้ โดยในวันที่แต่งตั้งโคเฮนนั้น หุ้นของ GameStop พุ่งขึ้นกว่า 11% ในวันเดียวไปแตะที่ระดับ 19.94 ดอลลาร์/หุ้น หลังจากนั้น ราคาหุ้นของ GameStop ก็ยังคงพุ่งขึ้นไม่หยุด โดยไปอยู่ที่ 35.5 ดอลลาร์/หุ้นในวันศุกร์ที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมา หรือเพิ่มขึ้นเท่าตัวในเวลาเพียงสัปดาห์เดียว

เฮดจ์ฟันด์เห็นต่าง มองราคาสูงเกินพื้นฐาน แบบนี้ต้องชอร์ต

บรรดาเฮดจ์ฟันด์ในตลาดวอลล์สตรีทเริ่มมองว่า ราคาหุ้น GameStop ที่ 35.5 ดอลลาร์/หุ้นนั้นสูงเกินไป เพราะถึงแม้ว่านายโคเฮนอาจจะเข้ามาช่วยให้ GameStop ตีตลาดออนไลน์และเพิ่มยอดขายได้ แต่ก็ไม่มีทางที่ธุรกิจของบริษัทจะดีขึ้นได้ถึง 10 เท่าตามราคาหุ้น ด้วยเหตุผลนี้ทำให้บรรดาเฮดจ์ฟันด์คาดว่าอีกไม่นานราคาหุ้นของ GameStop จะต้องร่วงลง และเห็นโอกาสในทำกำไรจากราคาหุ้นที่สูงเกินจริงด้วยการยืมหุ้น GameStop ออกมาขายชอร์ต (short selling) โดยหวังว่าเมื่อราคาหุ้นไหลลงก็จะกลับไปซื้อหุ้นคืนในราคาถูก และทำกำไรจากส่วนต่างของราคาที่ขายออกไปและซื้อคืนกลับมา ซึ่งเฮดจ์ฟันด์ 2 รายใหญ่ที่ทำการขายชอร์ตหุ้นตัวนี้มากที่สุดได้แก่กองทุน Citadel และกองทุน Point72

หายนะเฮดจ์ฟันด์ขาชอร์ต หลังเกรียนคีย์บอร์ดปลุกกระแสซื้อดันราคาพุ่งกระฉูด

กลุ่มชาวเน็ตที่อยู่ในห้องที่ชื่อ WallStreetBets บนเว็บบอร์ด Reddit (คล้ายๆ กับ pantip.com บ้านเรา) เมื่อเห็นว่าพวกเฮดจ์ฟันด์เริ่มขายชอร์ตหุ้นตัวนี้จำนวนมาก ก็รู้สึกอยากจะให้บทเรียนกับเฮดจ์ฟันด์เหล่านี้ ประกอบกับต้องการทำกำไรจากราคาหุ้น GameStop ด้วย พวกเขาจึงได้ปั่นกระแสให้สมาชิกในห้อง WallStreetBets (ปัจจุบันมีจำนวนสมาชิก 8.3 ล้านคน) แห่กันเข้าไปซื้อหุ้นและออปชั่นของ GameStop เพื่อปั่นราคาหุ้นให้สูงขึ้น ซึ่งก็ได้ผลเกินคาด โดยปรากฎว่าชาวเม่าในห้อง WallStreetBets ได้แห่กันเข้าไปรุมซื้อหุ้นและออปชั่นของ GameStop ซึ่งดันราคาหุ้นพุ่งขึ้นเรื่อยๆ จนสูงกว่า 300 ดอลลาร์/หุ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา

กองทุน Citadel และกองทุน Point72 ที่ขายชอร์ตหุ้นตัวนี้ไว้จำนวนมากประสบภาวะขาดทุนอย่างหนักจากการที่ราคาหุ้น GameStop พุ่งติดจรวด เพราะสองกองทุนนี้ต้องไล่ซื้อคืนหุ้นในราคาที่สูงเพื่อตัดขาดทุน นอกจากนี้ สองกองทุนนี้ยังต้องระดมเงินทุนเพิ่มอีกหลายพันล้านดอลลาร์ด้วยการขายหุ้นตัวอื่นๆ ที่ถืออยู่ออกมา เพื่อนำเงินที่ได้ไปโปะการขาดทุนที่เกิดจากการขายชอร์ตหุ้น GameStop

กองทุนขนาดเล็กกว่าอย่าง Melvin Capital และ Citron Capital ที่ร่วมขายชอร์ตหุ้น GameStop ด้วยนั้น ก็ได้ออกมาประกาศเช่นกันว่าได้ปิดทำการสถานะชอร์ตหุ้นตัวนี้ทั้งหมดแล้ว และประสบภาวะขาดทุนเป็นเท่าตัวจากยอดเงินลงทุนในการชอร์ตหุ้นตัวนี้

ปรากฎการณ์ GameStop ลามหุ้น-สินค้าโภคภัณฑ์ จับตาเม่าไทย-เม่าเทศขยับตาม

สงครามหุ้น GameStop ที่ทำให้เฮดจ์ฟันด์เป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำให้กับนักลงทุนรายย่อยอย่างไม่คาดคิดนั้น ได้ลามไปยังหุ้นตัวอื่นๆ ในตลาดหุ้นนิวยอร์กด้วย อาทิ หุ้น AMC Entertainment ซึ่งเป็นธุรกิจโรงภาพยนตร์ และหุ้น BlackBerry ผู้ผลิตมือถือชื่อดังในอดีต ซึ่งต่างก็ประสบปัญหาทางธุรกิจคล้ายๆ กัน โดยนักลงทุนรายย่อยได้ชักชวนกันในสื่อสังคมออนไลน์ให้เข้าซื้อเพื่อดันราคาหุ้นดังกล่าวขึ้นเพื่อทำกำไรไปพร้อมๆ กับความพยายามที่จะดัดหลังเหล่าบรรดาเฮดจ์ฟันด์ที่ขายชอร์ตหุ้นเหล่านี้ไว้

นอกจากนี้ กลุ่มนักลงทุนรายย่อยยังได้หันเป้าหมายไปยังโลหะเงินเพื่อดันราคาขึ้นด้วย โดยใช้กลยุทธ์ในลักษณะเดียวกับหุ้น GameStop เพื่อสั่งสอนกองทุนเฮดจ์ฟันด์รายใหญ่ที่เก็งกำไรโลหะเงินด้วยการขายชอร์ตในตลาด ซึ่งการที่นักลงทุนรายย่อยแห่ซื้อโลหะเงิน ส่งผลให้ราคาสัญญาโลหะเงินพุ่งขึ้นเหนือระดับ 30 ดอลลาร์เมื่อวานนี้ แตะระดับสูงสุดในรอบ 8 ปี

บรรดานักลงทุนรายย่อยในมาเลเซียได้เลียนแบบบรรดาเม่าสหรัฐด้วยกันสร้างห้อง BursaBets ขึ้นบน Reddit เพื่อหวังปลุกพลังเม่าให้เข้าซื้อหุ้น อาทิ หุ้นกลุ่มผู้ผลิตถุงมือยางของมาเลเซีย โดยหวังให้ราคาหุ้นพุ่งขึ้นเหมือนกับ GameStop นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่าบรรดาเม่าไทยก็ได้สร้างชุมชนออนไลน์ที่ชื่อ SETBET ขึ้นโดยมีจุดประสงค์เดียวกันด้วย

ทางการสหรัฐออกโรงเร่งตรวจสอบ หลังเกมปั่นหุ้นทำตลาดผันผวนหนัก

นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐกล่าวในสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า สภาคองเกรสจะเข้าร่วมการตรวจสอบการทะยานขึ้นของราคาหุ้น GameStop หลังจากที่สร้างความผันผวนอย่างหนักในตลาดหุ้นนิวยอร์ก โดยดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงอย่างหนักในสัปดาห์ที่ผ่านมา และทรุดตัวลงกว่า 600 จุด เพราะถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะผันผวนในตลาดที่เกิดจากการปั่นหุ้น GameStop

ทางด้านทำเนียบขาวได้ประกาศจับตาการพุ่งขึ้นของหุ้น GameStop ซึ่งได้สร้างความวิตกเกี่ยวกับภาวะฟองสบู่ในตลาด โดยทีมเศรษฐกิจของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ซึ่งรวมถึงนางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐซึ่งได้เข้ารับตำแหน่งเป็นวันแรกเมื่อวันพุธที่แล้ว ระบุว่า รัฐบาลสหรัฐกำลังจับตาสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด

คณะกรรมาธิการด้านบริการการเงินแห่งสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐจะจัดการไต่สวนเกี่ยวกับภาวะผันผวนที่เกิดขึ้นในตลาดหุ้นซึ่งเกี่ยวข้องกับการปั่นราคาหุ้น GameStop และหุ้นตัวอื่นๆ โดยการไต่สวนจะมีขึ้นในวันที่ 18 ก.พ.นี้

ด้านธนาคารกลางสิงคโปร์ (MAS) และสำนักงานกำกับตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ (SER) หรือก.ล.ต.ของสิงคโปร์แถลงเมื่อวานนี้ว่า เจ้าหน้าที่กำลังจับตากรณีที่นักลงทุนในสิงคโปร์ให้ความสนใจปรากฎการณ์ GameStop ที่เกิดขึ้นในตลาดหุ้นสหรัฐ โดยระบุว่า จากการตรวจสอบข้อความในการสนทนาของนักลงทุนในสื่อออนไลน์บ่งชี้ว่า มีความเป็นไปได้ที่จะมีพฤติกรรมการเลียนแบบการเก็งกำไรดังกล่าวเกิดขึ้นในตลาดหุ้นสิงคโปร์

เราคงต้องจับตาดูกันต่อไปว่า ราคาหุ้น GameStop นั้นเกมโอเวอร์ ไม่ไปต่อแล้วจริงๆ และจะร่วงลงสู่ระดับราคาพื้นฐานที่ควรจะเป็น หรือจะพุ่งทะยานขึ้นได้อีกครั้ง ก็ไม่แน่ว่า… สงครามหุ้นระหว่างแมงเม่ากับยักษ์เฮดจ์ฟันด์อาจจะยังไม่สิ้นสุด

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (3 ก.พ. 64)

Tags: , , , , , , , , ,
Back to Top