กรมอุตุฯ เตือนไทยตอนบนมีพายุฝนฟ้าคะนอง อากาศเย็นลง 4-6 องศา

กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเตือนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง ซึ่งจะมีผลกระทบถึงวันนี้ โดยบริเวณภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีพายุฝนฟ้าคะนองและมีลมกระโชกแรง กับมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ในภาคเหนือตอนล่าง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนองที่จะเกิดขึ้น โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง รวมถึงระวังอันตรายจากฟ้าผ่า สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย

โดยในช่วงวันที่ 9-10 ก.พ.64 บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศหนาวเย็นลง บริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนืออุณหภูมิจะลดลง 4-6 องศาเซลเซียส ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส

ทั้งนี้เนื่องจากมีคลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกได้เคลื่อนผ่านภาคเหนือเข้าปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ขณะที่มีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากอ่าวไทยและทะเลจีนใต้เข้ามาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล

จังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ มีดังนี้

ภาคเหนือ: จังหวัดอุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลก พิจิตร กำแพงเพชร และเพชรบูรณ์

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม ชัยภูมิ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี

ภาคกลาง: จังหวัดนครสวรรค์ ลพบุรี สระบุรี อ่างทอง สิงห์บุรี พระนครศรีอยุธยา รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล

ภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด

ขณะที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานตั้งแต่วันที่ 7 ก.พ. 64-ปัจจุบัน เกิดวาตภัยและลูกเห็บตกในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ ลำพูน และกำแพงเพชร รวม 5 อำเภอ 6 ตำบล 7 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 18 หลัง พื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหายประมาณ 20 ไร่ ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ในจังหวัดกำแพงเพชร ซึ่ง ปภ.ได้ร่วมกับจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่สำรวจความเสียหายและให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้นแล้ว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 ก.พ. 64)

Tags: , , ,
Back to Top