นบข.ไฟเขียวปรับเพิ่มวงเงินโครงการประกันรายได้ข้าวปี 63/64 อีก 3.8 พันลบ.

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) ครั้งที่ 1/2564 ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมเป็นประธานว่า ที่ประชุมเห็นชอบปรับเพิ่มวงเงินงบประมาณโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2563/64 รอบที่ 1 อีก 3,838.92 ล้านบาท จาก 46,807.35 ล้านบาท รวมเป็น 50,646.27 ล้านบาท และมอบหมายธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และกระทรวงพาณิชย์ จัดทำรายละเอียด และงบประมาณตาม พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 และให้กระทรวงพาณิชย์ ในฐานะฝ่ายเลขานุการ นบข. นำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป

พร้อมกันนี้ ที่ประชุมมีมติเห็นชอบโครงการประกันภัยข้าวนาปี ปี 64 และมอบหมายกระทรวงการคลังนำเสนอ ครม.พิจารณาต่อไป โดยโครงการประกันภัยข้าวนาปี ปี 64 กระทรวงการคลัง ธ.ก.ส. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้พิจารณาแนวทางการดำเนินโครงการเช่นเดียวกับปี 59-63 โดยปรับปรุงรูปแบบอัตราค่าเบี้ยประกันภัยพื้นฐาน (Tier 1) ให้สอดคล้องกับอัตราส่วนความเสียหาย และปรับปรุงเป้าหมายการเอาประกันภัยพื้นฐาน (Tier 1) ให้ครอบคลุมพื้นที่เพาะปลูกที่มีความเหมาะสมต่อการเพาะปลูกข้าวนาปีที่มีความเสี่ยงต่อภัยธรรมชาติต่ำ จำนวน 577 อำเภอ คิดเป็นพื้นที่เพาะปลูก 16 ล้านไร่

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังหารือถึงแนวทางการส่งออกข้าวไทยที่ลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศผู้ส่งออกที่สำคัญว่า ให้ดูปัจจัยที่ทำให้ราคาข้าวผกผันเพื่อแก้ปัญหาให้ถูกวิธี กำหนดกรอบข้าวแต่ละประเภทเพื่อไม่ให้ผลผลิตล้นตลาด ทั้งประเภทพันธุ์ ราคา สัดส่วนชนิดข้าวที่ผลิต ขณะที่ตลาดส่งออกข้าวไทยทั้งทวิภาคีและการขายตรงไปแต่ละประเทศ ให้พิจารณาเพิ่มตลาดกลางในกลุ่มประเทศต่าง ๆ เพื่อเป็นศูนย์กระจายสินค้าในภูมิภาคอื่น ๆ

เรื่องปัญหาการขาดแคลนตู้ขนส่งสินค้า ได้สั่งการทั้งกรมเจ้าท่า กระทรวงคมนาคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการคลัง ให้แก้ปัญหาเรื่องตู้ขนส่งสินค้า ขณะนี้ปลดล็อกหลายอย่างแล้ว จึงขอให้ติดตามด้วยว่ามีจำนวนเพียงพอหรือไม่ โดยในส่วนของข้าวตลาดหลัก ข้าวตลาดเฉพาะในประเทศ ข้าวเพื่อสุขภาพ ข้าวอินทรีย์ ข้าวพื้นนุ่ม ต้องมีรายละเอียดที่ชัดเจน

นายกรัฐมนตรี ยังได้ย้ำถึงผลผลิตข้าวไทยปี 64 ซึ่งมีแนวโน้มมากกว่าปี 63 ว่า ขอให้เป็นข้าวที่มีราคาที่สามารถแข่งขันกับประเทศคู่แข่งได้ ซึ่งฝากให้สมาคมผู้ส่งออกข้าวและสภาเกษตรกรร่วมขับเคลื่อนช่วยคิดในเรื่องการปลูกข้าวให้ตรงกับตลาด ลดต้นทุนการเพาะปลูก ให้การปลูกข้าวพันธุ์ใหม่สอดคล้องกับพื้นที่ น้ำ และความต้องการของผู้บริโภคและการค้าระหว่างประเทศ โดยนายกรัฐมนตรีย้ำว่าข้อมูลเหล่านี้มีประโยชน์ ทุกคนต้องรับรู้ร่วมกันเพื่อคิดในรายละเอียด เพื่อหาอุปสงค์ อุปทาน และหาตลาด ให้สอดคล้องกัน

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า รัฐบาลสนับสนุนภาคการเกษตรและช่วยเหลือเกษตรกรอย่างต่อเนื่อง ภายใต้มาตรการต่าง ๆ ได้แก่ การประกันรายได้ การลดต้นทุนการผลิต การบริหารจัดการการตลาดและการประกันภัยสินค้าเกษตร เพื่อเป้าหมายหลักคือยกระดับภาคการเกษตร เพิ่มคุณภาพชีวิตของเกษตรกรให้มีรายได้อย่างเพียงพอในการดำรงชีวิต เช่นเดียวกับการประกอบอาชีพอื่น ๆ สำหรับภาระงบประมาณที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปีมอบหมายให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงบประมาณ กระทรวงการคลัง หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม หารือแนวทางปฏิรูป ขับเคลื่อนภาคการเกษตรเน้นสร้างความเข้มแข็งให้ภาคเกษตรกรโดยตรง แทนตัวสินค้าเกษตร มีแนวทางการพัฒนาอาชีพ โดยต้องมี Roadmap และ Action Plan ที่ชัดเจน

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 ก.พ. 64)

Tags: , , , , ,
Back to Top