สธ.แนะประชาชนปฏิบัติตัวตามหลัก DMHTT สร้างภูมิคุ้มกันตัวเองให้เป็นวัคซีนสังคม

นพ.ณรงค์ สายวงศ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในฐานะโฆษกกระทรวงฯ เปิดเผยว่า ภาพรวมสถานการณ์โรคโควิด-19 ขณะนี้มีแนวโน้มดีขึ้น สามารถจำกัดวงการแพร่ระบาดได้ ยังคงค้นหาเชิงรุกในกลุ่มเสี่ยงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งพบผู้ติดเชื้อลดลง

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลได้มอบให้กระทรวงฯ เร่งจัดหาวัคซีนให้กับประชาชนไทยและกลุ่มเสี่ยงที่อยู่ในประเทศไทยทุกคน ซึ่งการจัดหาและการฉีดวัคซีนเป็นไปตามแผนที่วางไว้

ขณะที่ผลสำรวจ การรับรู้ ทัศนคติ และพฤติกรรมสุขภาพของประชาชนเรื่องโรคโควิด-19 หรือดีดีซีโพลล์ของกรมควบคุมโรค ออนไลน์ล่าสุดครั้งที่ 25 ระหว่างวันที่ 26 ม.ค.-8 ก.พ.64 มีผู้ตอบแบบสอบถาม 2,879 คน พบประชาชนมีการสวมหน้ากากในช่วงที่ไม่มีอาการและการเว้นระยะห่างเพิ่มขึ้น มีผู้ที่อยากฉีดวัคซีนแม้ไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อ เจ็บป่วย และเสียชีวิต 69.8% โดยผู้ที่ไม่ต้องการฉีดหรือไม่แน่ใจว่าจะฉีดส่วนหนึ่งคิดว่าสามารถดูแลป้องกันตนเองได้ ซึ่งมาตรการ DMHTT คือ การเว้นระยะห่าง สวมหน้ากากอนามัย 100% ล้างมือบ่อยๆ ตรวจวัดอุณหภูมิ และสแกนไทยชนะ/ หมอชนะ นับเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันโรคโควิด-19 ด้วยตนเอง เป็นวัคซีนสังคมหรือโซเชียลวัคซีน ที่จะช่วยทุกคนปลอดภัยจากโรคโควิด 19 และเป็นจุดแข็งของระบบการควบคุมป้องกันโรคของประเทศไทย จึงขอย้ำให้ประชาชนใช้ชีวิตแบบ New Normal แม้จะได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว

นอกจากนี้ได้ให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดต้องเร่งสื่อสารให้ประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงให้เข้าใจถึงประโยชน์ของการได้รับวัคซีน ซึ่งจะช่วยลดความรุนแรงของโรค ลดอัตราการเสียชีวิต ที่สำคัญคือลดการแพร่กระจายเชื้อ ลดการระบาดของโรค รวมทั้งวัคซีนที่ประเทศไทยได้จัดหาสำหรับคนไทยเป็นวัคซีนที่มีความปลอดภัยสูง และมีประสิทธิผลในระดับที่องค์การอนามัยโลกยอมรับ มีขั้นตอนการให้บริการวัคซีนที่เป็นระบบ ได้มาตรฐาน ต้องรอสังเกตอาการ 30 นาที และมีการติดตามผลทาง Line OA หมอพร้อม

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 ก.พ. 64)

Tags: , , , ,
Back to Top