CCP รับครึ่งปีแรกยังรับพิษโควิดหวังครึ่งหลังดีขึ้น ย้ำเป้ารายได้ปีนี้ 2.6 พันลบ.

นายอาทิตย์ ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บมจ.ผลิตภัณฑ์คอนกรีตชลบุรี (CCP) เปิดเผยว่า ทิศทางธุรกิจปี 64 ครึ่งปีแรกได้รับผลกระทบในระยะสั้นจากการแพร่ระบาดโควิด 19 ปิดเมืองชลบุรี ส่งผลให้งานชะลอหรือต้องเลื่อนส่งมอบงาน คาดว่าครึ่งปีหลังจะมีแนวโน้มที่ดีกว่าครึ่งปีแรก จากความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์คอนกรีตปรับตัวดีขึ้น

โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการลงทุนตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจงานโครงสร้างพื้นฐานในหลายโครงการ อาทิ โครงการรถไฟความเร็วสูง เชื่อมต่อ 3 สนามบิน โครงการปรับปรุงทางหลวง โครงการถนนสายรองในพื้นที่อู่ตะเภา มาบตาพุด ชลบุรี โครงการพัฒนาท่าเรือ แหลมฉบัง และ ท่าเรือมาบตาพุด ระยะที่ 3

อีกทั้ง ยังมีโครงการของหน่วยงานภาครัฐในพื้นที่ต่างๆ ที่มีการก่อสร้างอย่างต่อเนื่อง อาทิ งานถนน อาคารสำนักงาน ขณะที่นโยบายระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ EEC ผลักดันให้เกิดการลงทุนก่อสร้างนิคมอุตสาหกรรม คลังสินค้า และผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ทยอยลงทุนในโครงการใหม่

แผนการดำเนินธุรกิจในปีนี้ บริษัทจะมุ่งเน้นบริหารจัดการต้นทุนการผลิต-การขาย ลดค่าใช้จ่ายพร้อมเสริมศักยภาพการแข่งขันและเพิ่มความสามารถในการทำกำไรธุรกิจคอนกรีตผสมเสร็จ (Ready Mix) เนื่องจากเทรนด์การก่อสร้างในปัจจุบันใช้ระยะเวลาที่สั้นลง ต้องปรับกลยุทธ์ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า ซึ่งจะให้บริการในลักษณะ Mobile Plant โดยจัดตั้งแพลนท์ปูนชั่วคราวที่สามารถรื้อถอนได้ ให้บริการเช่ารถขนส่ง ขายคอนกรีต รวมทั้งให้บริการตรวจสอบคุณภาพผงปูน

ด้านสินค้า Precast ยังคงเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์สเปกพิเศษ ออกสินค้านวัตกรรมใหม่อย่างต่อเนื่อง รองรับงานโครงสร้างพื้นฐาน อาทิ งานถนน งานสะพาน งานเอาสายไฟฟ้าลงใต้ดิน ขยายฐานลูกค้าไม่จำกัดเฉพาะภาคตะวันออก มุ่งเน้นเข้าประมูลงานทั่วประเทศ

ขณะที่สินค้าประเภทบล็อกคอนกรีตสำเร็จรูป อาทิ รางระบายน้ำ Precast สำหรับงานจัดการ Landscape มีความต้องการใช้งานเพิ่มสูงขึ้น ปัจจุบันมีหน่วยงานหลายแห่งเริ่มนำผลิตภัณฑ์เข้าไปใช้ในงานด้าน Landscape บริษัทจะเน้นการทำตลาดผลิตภัณฑ์ในส่วนนี้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้จะมุ่งเน้นการเปิดตลาดใหม่เพื่อขยายฐานลูกค้าและกระจายความเสี่ยง รวมทั้งขยายช่องทางการจำหน่ายผลิตภัณฑ์คอนกรีตสำเร็จรูป ผ่านช่องทางการจำหน่ายที่มีประสิทธิภาพเพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้ารายย่อยทั่วประเทศ

ปัจจุบันบริษัทมีงานในมือ (Backlog) ประมาณ 1,800 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ในระยะเวลา 1 ปีครึ่ง โดยบริษัทจะทยอยประมูลงานเข้ามาเพิ่มอีกในอนาคต เพื่อรักษาระดับมูลค่างานในมือ (Backlog) ไว้ไม่ต่ำกว่า 1,600 ล้านบาท ซึ่งในปีนี้บริษัทยังคงเน้นเรื่องการพัฒนาผลิตภัณฑ์และปรับปรุงเครื่องจักรเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต

สำหรับเป้าหมายการเติบโตปีนี้ บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้ไว้ที่ประมาณ 2,600 ล้านบาท หากการแพร่ระบาดโควิด-19 จบอย่างรวดเร็วในครึ่งปีแรก และสัดส่วนรายได้มาจากงานภาครัฐ 80% และภาคเอกชน 20%

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 ก.พ. 64)

Tags: , , , ,
Back to Top