TQR เริ่มซื้อขายในตลาด mai วันที่ 17 ก.พ. นี้

บมจ. ที คิว อาร์ ดำเนินธุรกิจนายหน้าประกันภัยต่อ พร้อมเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ 17 ก.พ. นี้ ด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 1,173 ล้านบาท โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “TQR”

นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ mai ยินดีต้อนรับ บมจ. ที คิว อาร์ เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2564 ภายใต้กลุ่มธุรกิจการเงิน โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “TQR”

TQR ดำเนินธุรกิจเป็นนายหน้าประกันภัยต่อ (Reinsurance Broker) ให้บริการจัดหาสัญญาประกันภัยต่อแก่บริษัทประกันภัย (Cedant) อย่างครบวงจรตั้งแต่ให้คำปรึกษาเพื่อจัดหาสัญญาประกันภัยต่อแบบสัญญา (Treaty Reinsurance) และสัญญาประกันภัยต่อแบบเฉพาะราย (Facultative Reinsurance) โดยบริษัทจะทำหน้าที่พิจารณาองค์ประกอบของสัญญาประกันภัยต่อเพื่อจัดหาสัญญาประกันภัยต่อที่ดีที่สุดแก่คูค้า ได้แก่ บริษัทประกันภัย และบริษัทรับประกันภัยต่อ (Reinsurer)

นอกจากนั้น บริษัทยังร่วมวิเคราะห์และพัฒนาการประกันภัยรูปแบบใหม่กับคู่ค้า ตลอดจนให้คำปรึกษาเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ประกันภัยรูปแบบใหม่จากต่างประเทศและนำมาประยุกต์ให้สอดคล้องกับตลาดประกันภัยของประเทศไทย โดยธุรกิจแบ่งประเภทออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ ธุรกิจนายหน้าประกันภัยต่อแบบทั่วไป (Traditional Business) ธุรกิจนายหน้าธุรกิจประกันภัยต่อแบบพัฒนาช่องทางและผลิตภัณฑ์ใหม่ร่วมกัน (Alternative Business) และรายได้อื่น ซึ่งปี 2562 มีสัดส่วนรายได้ประมาณ 60: 38: 2 และงวด 9 เดือนแรกของปี 2563 ประมาณ 33 : 66: 1

TQR มีทุนชำระแล้ว 115 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 170 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 60 ล้านหุ้น เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนครั้งแรก (IPO) โดยแบ่งเป็นเสนอขายต่อบุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ จำนวน 30 ล้านหุ้น ผู้ลงทุนสถาบัน จำนวน 15 ล้านหุ้น ผู้มีอุปการคุณ จำนวนไม่เกิน 9 ล้านหุ้น และกรรมการ ผู้บริหาร พนักงานของบริษัท จำนวนไม่เกิน 6 ล้านหุ้น เมื่อวันที่ 9-11 กุมภาพันธ์ 2564 ในราคาหุ้นละ 5.10 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 306 ล้านบาท และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 1,173 ล้านบาท

ทั้งนี้ การกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E ratio) ที่ 15.8 เท่า โดยคำนวณจากผลประกอบการของบริษัทในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา (1 ตุลาคม 2562 – 30 กันยายน 2563) ซึ่งเท่ากับ 74.40 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ (fully diluted) คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.32 บาท ประกอบกับการสำรวจความต้องการซื้อหลักทรัพย์ (Book Building) ซึ่งเป็นวิธีการสอบถามปริมาณความต้องการซื้อหุ้นสามัญของผู้ลงทุนสถาบัน โดยมีบริษัท เจย์ แคปปิตอล แอดไวเซอรี จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และมีบริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย

นายชนะพันธุ์ พิริยะพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TQR เปิดเผยว่า บริษัทมีทีมผู้บริหารและบุคลากรที่มีความรู้และประสบการณ์ด้านอุตสาหกรรมการประกันภัยมาอย่างยาวนาน มีความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้าและคู่ค้า ซึ่งการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในครั้งนี้จะช่วยทำให้บริษัทมีฐานทุนที่มั่นคง มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับของคู่ค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพิ่มศักยภาพการแข่งขันในธุรกิจให้มีการเติบโตมากขึ้น โดยบริษัทมีแผนจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนเพื่อลงทุนพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อส่งเสริมประสิทธิภาพในการให้บริการ (Operational Efficiency Improvement Platform) โครงการพัฒนาแบบจำลองและวิเคราะห์รูปแบบประกันภัยต่อ (Financial Model) และใช้เป็นเงินลงทุนในธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

ทั้งนี้ TQR มีโครงสร้างผู้ถือหุ้นหลัง IPO 3 อันดับแรก ได้แก่ กลุ่มพรรณิภา ถือหุ้น 44.35% นางยุพเรศ พิริยะพันธุ์ ถือหุ้น 13.30% และนายพรเกษม เหล่าฤทธิรัตน์ ถือหุ้น 8.87% บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่ต่ำกว่า 50% ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และทุนสำรองตามกฎหมาย

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 ก.พ. 64)

Tags: , , ,
Back to Top