KISS เปิดเทรดวันแรกที่ 15.00 บาท สูงกว่าราคาขาย IPO 66.67%

หุ้น KISS เปิดเทรดวันแรกที่ 15.00 บาท เพิ่มขึ้น 6.00 บาท (+66.67%) จากราคาขาย IPO ที่ 9.00 บาท/หุ้น

บล.ทิสโก้ ระบุในบทวิเคราะห์ฯมองว่า ราคา IPO ของบมจ.โรจูคิส อินเตอร์เนชั่นแนล (KISS) อยู่ในระดับที่เหมาะสมแล้ว แม้ว่าการเติบโตของผลประกอบการจะสูงในปีที่ผ่านมาแต่มาจากค่าใช้จ่ายด้านการตลาดที่ลดลง ในขณะที่รายได้ลดลงและมี PER ที่ค่อนข้างสูงราว 30 เท่า ตัวผลิตภัณฑ์ของ KISS นับว่าเป็นกลุ่มที่ค่อนข้างได้รับความนิยมจากการจำหน่ายผ่านร้านสะดวกซื้อ อีกทั้งการเพิ่มช่องทางจำหน่ายในต่างประเทศและโอกาสการเข้าลงทุนของ GMM ในอนาคตจะเป็นปัจจัยบวกสำคัญในการเติบโต แต่อย่างไรก็ตามผู้บริหารมีเผยในรายงานว่าในวันซื้อขายแรกจะมีการขาย Biglot ราว 54 ล้านหุ้น และมี ESOP ที่รอแปลงสภาพในอนาคต 18 ล้านหุ้น

KISS ดำเนินธุรกิจโดยการพัฒนา จ้างผลิต และจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์บำรุงผิว (Skin Care) ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง (Color Cosmetics) และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร (Food Supplement) ภายใต้แบรนด์ต่างๆ ของบริษัทฯ ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ รวมถึงให้บริการคำปรึกษาในการดำเนินธุรกิจและการตลาดสำหรับการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ของบริษัทฯ ในต่างประเทศอีกด้วย เป็นผู้พัฒนาและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ภายใต้ 5 แบรนด์หลักได้แก่ 1) กลุ่มผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ภายใต้ตราสินค้า “Rojukiss” “PhDerma / PhD K-Derma” “Wonder Herb” และ “Best Korea” 2) กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ภายใต้ตราสินค้า “Sis2Sis” 3) กลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ภายใต้ตราสินค้า “Rojukiss”

โครงการในอนาคตของบริษัท 1) บริษัทฯ มีแผนงานพัฒนาและนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่และแบรนด์ใหม่ในประเทศไทย ในปี 2564-2566 โดยคาดว่าจะใช้เงินทุนหมุนเวียนที่ได้จากการออกและเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนครั้งนี้รวมประมาณ 100 ล้านบาท 2) บริษัทฯ เล็งเห็นโอกาสในการเติบโตธุรกิจด้วยการขยายฐานลูกค้าใหม่ผ่านช่องทางการขายตรงแก่ผู้บริโภคโดยไม่ผ่านร้านค้าคนกลาง (Direct-to-consumer; D2C หรือ B2C) ซึ่งถือเป็นรูปแบบธุรกิจใหม่ของบริษัทฯ ที่จะช่วยขยายฐานกลุ่มลูกค้าใหม่ 3) บริษัทฯ เล็งเห็นโอกาสในการเติบโตธุรกิจในต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน 2 ประเทศหลัก

ได้แก่ ประเทศอินโดนีเซียและเวียดนาม 4) บริษัทฯ มีเป้าหมายในการนำเทคโนโลยีและดิจิทัลเข้ามาช่วยผลักดันการพัฒนาและนำเสนอนวัตกรรมให้เข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างกว้างขวางและใกล้ชิดมากที่สุด

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 ก.พ. 64)

Tags: ,
Back to Top