JUBILE เป้าปี 64 โตกว่า 10% รุกออฟไลน์-ออนไลน์ หลังปี 63 กำไรสวนกระแสโควิด

นางสาวอัญรัตน์ พรประกฤต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ยูบิลลี่ เอ็นเตอร์ไพรส์ (JUBILE) เปิดเผยว่า แนวโน้มปี 64 แม้จะมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ที่เป็นอุปสรรคสำคัญในชีวิตผู้คนและทุกอุตสาหกรรม แต่การที่บริษัทก้าวข้ามผ่านความท้าทายในปีที่ผ่านมา

โดยการปรับตัวตอบรับกับทุกสถานการณ์ในเชิงรุก ถือเป็นบทพิสูจน์ของ JUBILE ในฐานะแบรนด์เพชรไทยที่เชี่ยวชาญมาอย่างยาวนาน พร้อมมุ่งมั่นเดินหน้าธุรกิจด้วยการเป็นมิตรกับทุกคนเพื่อให้คนไทยสามารถเข้าถึงเพชรแท้แบรนด์ไทย คุณภาพดีระดับสากล และเชื่อถือได้

โดยในปีนี้ JUBILE จะยังคงเดินหน้าต่อยอดความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง ผ่านกลยุทธ์ธุรกิจทั้งออฟไลน์และออนไลน์ และยังคงเดินหน้าขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ครอบคลุมการจำหน่าย การบริการหลังการขายให้กับลูกค้าในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ โดยตั้งเป้าการเติบโตในปี 64 ไม่น้อยกว่า 10%

“แม้ในปี 64 สถานการณ์โควิด-19 จะยังอยู่กับเราทุกคนโดยคาดเดาได้ยากว่าจะจบลงเมื่อไร แต่สิ่งหนึ่งที่ JUBILE ตระหนักและมุ่งมั่นให้ความสำคัญ คือการปรับตัวและพลิกวิกฤตเป็นโอกาส มองหาโอกาสใหม่ ๆ ในธุรกิจ โดยที่ผ่านมาเราไม่รอช้าในการปรับตัวและการวางกลยุทธ์ที่สอดคล้องกับสภาวะตลาดในเวลานั้นๆ ผ่านการจัดการข้อมูลที่เป็นรากฐานในการบริหาร ซึ่งในทุกการปรับตัวของเราก็ได้รับผลลัพธ์จากผู้บริโภคเป็นอย่างดี เป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นผู้นำด้านธุรกิจค้าปลีกเพชรที่มีความแข็งแกร่ง พร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ไม่หยุดนิ่งในการปรับตัวเข้าถึงผู้บริโภคที่หลากหลายด้วยกิจกรรมต่าง ๆ ผ่านทางออนไลน์และออฟไลน์อย่างต่อเนื่อง”

นางสาวอัญรัตน์ กล่าว

สำหรับผลงานในปี 63 แม้ว่าเป็นช่วงเวลาแห่งความท้าทายของธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจค้าปลีกที่ต้องเผชิญทั้งการปิดศูนย์การค้า การล็อกดาวน์ ล้วนส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ แต่ก็ถือเป็นบททดสอบและการพิสูจน์ความพร้อมและความแข็งแกร่งของธุรกิจได้เป็นอย่างดี

JUBILE ในฐานะที่เป็นผู้นำในธุรกิจค้าปลีกเครื่องประดับเพชรในประเทศไทยมากว่า 92 ปี ได้ใช้ความเชี่ยวชาญในธุรกิจ ความเข้าใจในสภาวะตลาด และความพร้อมขององค์กรและทีมงานในการปรับกลยุทธ์ธุรกิจด้วยความรวดเร็ว จนนำไปสู่การขยายช่องทางการขายเพชรออนไลน์เต็มรูปแบบทั้งทางอีคอมเมิร์ซและโซเชียลคอมเมิร์ซจนถือเป็นหนึ่งในปัจจัยความสำเร็จและกลยุทธ์สำคัญในการสร้างยอดขายในช่วงวิกฤตโควิด-19 ได้อย่างโดดเด่น

รวมถึงการกระตุ้นตลาดและการขยายฐานลูกค้าไปสู่กลุ่มลูกค้าเป้าหมายใหม่ ๆ ผ่านการจัดกิจกรรมการตลาด อีเว้นท์และโปรโมชั่นโดนใจมากมายทั้งทางออนไลน์และออฟไลน์ ส่งผลให้ในปี 63 สามารถทำรายได้รวมกว่า 1,704.3 ล้านบาท ลดลงจากปี 62 เพียง 5.7% โดยมีกำไรสุทธิ 266.8 ล้านบาท และยังคงเติบโต 1.7% เมื่อเทียบกับปี 62 ที่มีกำไรสุทธิ 262.2 ล้านบาท

“ในปี 63 ที่ผ่านมา แม้จะเป็นปีที่ท้าทาย แต่ก็นับว่าเป็นปีแห่งโอกาสของ JUBILE ที่เราได้ใช้วิกฤติให้เป็นโอกาส ด้วยการเปิดตัวแพลตฟอร์มออนไลน์อย่างเต็มรูปแบบเพื่อเป็นช่องทางการจัดจำหน่ายเครื่องประดับเพชรยูบิลลี่ให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้นและสร้างโอกาสทางการตลาดกับลูกค้าที่คุ้นเคยกับการซื้อสินค้าออนไลน์ได้เข้าถึงเครื่องประดับเพชรแท้มาตรฐานยูบิลลี่ผ่านช่องทางออนไลน์ได้อย่างสะดวกง่ายดาย โดยสิ่งที่น่าสนใจนอกจากสัดส่วนยอดขายจากช่องทางออนไลน์ที่เติบโตขึ้นมากในปี 63 การขยายช่องทางจำหน่ายสู่ออนไลน์ยังสามารถสร้างฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ได้เพิ่มขึ้นอีกด้วย”

นางสาวอัญรัตน์ กล่าว

อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่มาจากความเชี่ยวชาญในตลาดค้าปลีกเพชร รวมถึงฐานลูกค้าประจำและสมาชิกที่มีจำนวนมากกว่า 200,000 ราย จึงทำให้ทันทีที่สถานการณ์การแพร่ระบาดเริ่มคลี่คลายในไตรมาส 3/63 บริษัทเดินหน้าจัดกิจกรรมและปล่อยแคมเปญการตลาดเพื่อกระตุ้นตลาดได้ทันที ได้แก่ งาน Jubilee Mid Year Grand Sale งาน Jubilee 91st Thank you Party เพื่อตอบแทนกลุ่มลูกค้าสมาชิก The Sparkling Club และทิ้งท้ายในเดือน ธ.ค.63 จัดงาน The Legendary of CARAT & JUBILEE’S The Best Diamond Gift Festival 2020 อีกหนึ่งอีเว้นท์ใหญ่ประจำปี 63

รวมถึงกิจกรรมการตลาดในรูปแบบ Seasonal Marketing เพื่อให้การซื้อเพชรสามารถเกิดขึ้นได้ในทุกเทศกาลและทุกช่วงเวลา ซึ่งถือเป็นกลยุทธ์ที่สามารถกระตุ้นยอดขายได้อย่างต่อเนื่อง และสร้างความผูกพันระหว่างแบรนด์และผู้บริโภค อาทิ การสร้างสรรค์คอลเล็กชันเครื่องประดับเพชรสุดพิเศษ Sweet Sonata ในช่วงวาเลนไทน์, คอลเล็กชัน Prosperous Fortune ในช่วงเทศกาลตรุษจีน และคอลเล็กชัน Mon Amour ในเทศกาลวันแม่ รวมถึงโปรโมชั่นผ่อน 0% นานสูงสุด 12 เดือน โดยร่วมมือกับบัตรเครดิตชั้นนำมากมาย

ขณะที่ไตรมาส 4/63 สามารถสร้างปรากฏการณ์ยอดขายโตสูงสุดและสูงกว่าภาพรวมตลาดด้วยรายได้สูงถึง 567.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 55.1 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 62 ที่มีรายได้ 512.1 ล้านบาท เป็นแรงสนับสนุนสำคัญที่ทำให้มีกำไรสุทธิ 88 ล้านบาท เติบโตขึ้น 7.5 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 62

นางสาวอัญรัตน์ กล่าวว่า ความสำเร็จของ JUBILE ในไตรมาส 4/63 ได้รับแรงสนับสนุนจากหลายปัจจัย ทั้งโครงการช้อปดีมีคืนของภาครัฐ ที่สามารถนำค่าใช้จ่ายจากการซื้อสินค้าไปลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 30,000 บาท โดยมีผู้บริโภคจำนวนมากที่ซื้อเพชรและนำใบกำกับภาษีไปใช้สิทธิลดหย่อนภาษี เนื่องจากไม่ได้เดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ

ประกอบกับการจัดโปรโมชั่นส่งเสริมการขายและโปรโมชั่นที่ทำร่วมกับบัตรเครดิตชั้นนำและศูนย์การค้าชั้นนำในช่วงเทศกาลปีใหม่ จึงยิ่งช่วยกระตุ้นให้มีการซื้อเพชรเป็นของขวัญและซื้อเพชรเพื่อการลงทุนมากขึ้นในช่วงปลายปีที่ผ่านมา ขณะเดียวกันในช่วงปลายปีบริษัทจัดงานใหญ่ประจำปี The Legendary of CARAT & JUBILEE’s The Best Diamond Gift Festival 2020 เจาะกลุ่มลูกค้าระดับบนและนักสะสมเพชร

ซึ่งถือเป็นงานประจำปีที่โชว์ศักยภาพของ JUBILE ในการรวบรวมเพชรแท้เม็ดใหญ่คุณภาพสูงจากเมืองแอนด์เวิร์ป ประเทศเบลเยี่ยม แหล่งเพชรที่ดีที่สุดในโลกมาจัดแสดงและจำหน่ายได้มากที่สุด ซึ่งก็ได้รับการตอบรับที่ดีและสร้างยอดขายส่งท้ายปีได้อย่างโดดเด่น

อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ในช่วงปลายปีที่ผ่านมาซึ่งกระทบกับอารมณ์การจับจ่ายของลูกค้าอยู่บ้าง แต่ไม่ถือเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจมากนัก เนื่องจากการดำเนินธุรกิจทั้งในห้างสรรพสินค้าและออนไลน์ยังคงเปิดดำเนินการได้ตามปกติ ไม่ได้มีการล็อคดาวน์เหมือนตอนต้นปี ขณะที่ผู้คนไม่สามารถเดินทางท่องเที่ยวหรือไปต่างประเทศ จึงทำให้มีบางส่วนหันมาให้ความสนใจซื้อทองและเพชรเพื่อออมหรือการลงทุนแทน

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 ก.พ. 64)

Tags: , , , , ,
Back to Top