ฮ่องกงประกาศอัดฉีดงบกว่า 1.5 หมื่นล้านดอลล์ ฟื้นฟูเศรษฐกิจจากพิษโควิด

นายพอล ชาน รัฐมนตรีคลังของฮ่องกงเปิดเผยในวันนี้ว่า รัฐบาลฮ่องกงจะจัดสรรงบประมาณวงเงิน 1.20 แสนล้านดอลลาร์ฮ่องกงหรือราว 1.55 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจซึ่งกำลังเข้าสู่ภาวะถดถอย อันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

“งบประมาณในปีนี้จะมุ่งเน้นไปที่การสร้างเสถียรภาพของเศรษฐกิจ และบรรเทาภาระให้กับประชาชน” นายชานกล่าวในระหว่างการแถลงนโยบายประจำปี 2564 ซึ่งจะเริ่มขึ้นในเดือนเม.ย.ที่จะถึงนี้

ทั้งนี้ นายชานคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจฮ่องกงจะขยายตัวราว 3.5% – 5.5% ในปีนี้ อย่างไรก็ดี การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจจะขึ้นอยู่กับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ด้วย

นายชานยังกล่าวด้วยว่า แม้การเดินทางข้ามพรมแดนของประชาชนและกิจกรรมด้านการท่องเที่ยวมีแนวโน้มที่จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ แต่เศรษฐกิจก็จะเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้

นอกเหนือจากการเปิดเผยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจแล้ว รัฐบาลฮ่องกงยังได้ประกาศขึ้นภาษีอากรสแตมป์ (Stamp Duty) สำหรับการซื้อขายหุ้นจากระดับ 0.10% เป็น 0.13% ซึ่งเป็นการปรับขึ้นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2536 โดยข่าวดังกล่าวส่งผลให้ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงร่วงลงหนักสุดในรอบกว่า 5 ปีในวันนี้

ทั้งนี้ การปรับขึ้นภาษีซื้อขายหุ้นจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ส.ค.ปีนี้ ขณะที่สื่อคาดการณ์ว่ามาตรการดังกล่าวจะทำให้รัฐบาลฮ่องกงมีรายได้เพิ่มขึ้น 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์ฮ่องกงต่อปี หลังจากที่รัฐบาลกวาดได้รายจากภาษีซื้อขายหุ้นในปีงบประมาณ 2562/2563 ประมาณ 3.32 หมื่นล้านดอลลาร์ฮ่องกง

อย่างไรก็ดี การปรับขึ้นภาษีซื้อขายหุ้นมีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นฮ่องกง และจะทำให้รายได้ของตลาดหุ้นฮ่องกงลดลงด้วย

Tags: ,
Back to Top