ตลท.เผย SET มี.ค.บวกสูงกว่าภูมิภาคกลับมาอยู่ในระดับเดียวกับก่อนโควิด-19

นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) สรุปภาพรวมภาวะตลาดหลักทรัพย์ (SET Index) เดือนมี.ค.64 ว่า ณ สิ้นไตรมาสแรกปี 64 SET Index ปิดที่ 1,587.21 จุด เพิ่มขึ้น 9.5% จากสิ้นปี 63 และในเดือน มี.ค.64 เป็นเดือนแรกที่ SET Index กลับมาอยู่ระดับเดียวกับก่อนเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งกลุ่มอุตสาหกรรมที่ปรับตัวดีกว่า SET Index เมื่อเทียบกับสิ้นปี 63 ได้แก่ ธุรกิจการเงิน เกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร สินค้าอุตสาหกรรม บริการ สินค้าอุปโภคบริโภค และอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง

ในเดือน มี.ค.64 SET Index ปรับเพิ่มขึ้น 6% จากเดือนก่อนหน้า สูงกว่าค่าเฉลี่ยของดัชนีตลาดหลักทรัพย์อื่นๆ ในภูมิภาค โดย MSCI ASEAN Index ปรับลดลง 0.6% สาเหตุหนึ่งมาจากความคืบหน้าการกระจายวัคซีนและแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐในหลายประเทศ ทำให้ภาคส่วนต่างๆ คาดว่าจะสามารถกลับมาดำเนินธุรกิจได้ตามปกติ ประกอบกับมีการปรับพอร์ตการลงทุนของผู้ลงทุนสถาบันจากอุตสาหกรรมที่ได้ประโยชน์จากโควิด-19 หุ้นเติบโต หรือ Growth Stock ไปยังอุตสาหกรรมดั้งเดิมที่เป็นรากฐานของเศรษฐกิจของประเทศ หุ้นคุณค่า หรือ Value stock

ทั้งนี้ หลายอุตสาหกรรมปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่ปรับตัวดีกว่า SET Index เมื่อเทียบกับสิ้นปี 63 ได้แก่ ธุรกิจการเงิน เกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร สินค้าอุตสาหกรรม บริการ สินค้าอุปโภคบริโภค และอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง

ส่วนมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันใน SET และ mai อยู่ที่ 95,918 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33.8% จากเดือนเดียวกันของปีก่อน ทำให้ในไตรมาสแรกปี 2564 มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 96,951 ล้านบาท

ด้านผู้ลงทุนในประเทศยังมีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดที่ 48.0% ของมูลค่าการซื้อขายรวมทั้งตลาด โดยผู้ลงทุนต่างชาติขายสุทธิต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 แต่มีแนวโน้มลดลง ด้านผู้ลงทุนต่างชาติขายสุทธิเพียง 87 ล้านบาท สำหรับในช่วงไตรมาสแรกปี 64 ผู้ลงทุนต่างชาติขายสุทธิรวม 29,370 ล้านบาท

นอกจากนี้ ยังมีบริษัทเข้าจดทะเบียนซื้อขายใหม่ใน mai 1 บริษัท ไตรมาสแรกปี 64 SET มีมูลค่าระดมทุน (IPO) สูงที่สุดเมื่อเทียบกับตลาดหลักทรัพย์อื่นๆ ใน ASEAN โดยสาเหตุหลักมาจากการเข้าจดทะเบียนของ บมจ. ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก (OR)

Forward และ Historical P/E ของตลาดหลักทรัพย์ไทย ณ สิ้นเดือน มี.ค.64 อยู่ที่ระดับ 20.4 เท่า และ 39.7 เท่าตามลำดับ สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ระดับ 15.1 เท่า และ 24.1 เท่าตามลำดับ

อัตราเงินปันผลตอบแทน ณ สิ้นเดือนมี.ค.64 อยู่ที่ระดับ 2.42% สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ 2.30%

ด้านภาวะตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในเดือนมี.ค.64 ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (TFEX) มีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 621,604 สัญญา เพิ่มขึ้น 42.6% จากเดือนก่อน ที่สำคัญจากการเพิ่มขึ้นของ Single Stock Futures และ SET50 Index Futures และ USD Futures

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 เม.ย. 64)

Tags: , , , , , ,
Back to Top