ญี่ปุ่นฉีดวัคซีนป้องกันโควิดล่าช้า เหตุไม่มีวัคซีนผลิตเอง-อนุมัติยาก

สำนักข่าวซินหัวรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวจากสำนักข่าวเกียวโดของญี่ปุ่นว่า ณ วันที่ 9 เม.ย. มีชาวญี่ปุ่นที่ได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 อย่างน้อย 1 โดสแล้วราว 1.1 ล้านคน หรือเพียง 0.87% ของประชากรทั่วประเทศ ซึ่งล่าช้ากว่าประเทศพัฒนาแล้วชาติอื่น ๆ เป็นอย่างมาก

สถิติจากกระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการของญี่ปุ่น ระบุว่า นับตั้งแต่เริ่มฉีดวัคซีนโควิด-19 เมื่อวันที่ 17 ก.พ. ญี่ปุ่นยังคงอยู่ในกระบวนการแรกของกำหนดการให้วัคซีน ซึ่งก็คือการฉีดวัคซีนให้กับบุคลากรทางการแพทย์

ทั้งนี้ สำนักข่าวเกียวโดได้เปรียบเทียบอัตราการฉีดวัคซีนของญี่ปุ่นกับประเทศพัฒนาแล้วชาติอื่น ๆ โดยผลสรุปว่า การฉีดวัคซีนของญี่ปุ่นนั้นเป็นไปอย่างล่าช้า ข้อมูลของทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดของอังกฤษชี้ว่า อัตราการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เฉลี่ยทั่วโลกอยู่ที่ 5% โดยอัตราการฉีดวัคซีนของอิสราเอลสูงถึง 61% ส่วนอังกฤษและสหรัฐมีอัตราฉีดวัคซีนที่ค่อนข้างสูง หรืออยู่ที่ 46% และ 32% ตามลำดับ

สำนักข่าวเกียวโดวิเคราะห์ว่า สาเหตุหลักที่ทำให้การฉีดวัคซีนในญี่ปุ่นล่าช้า คือการวิจัยและพัฒนาในประเทศที่ล่าช้าทำให้ไม่สามารถผลิตวัคซีนในประเทศได้ รวมถึงขั้นตอนการอนุมัติอันเข้มงวด ส่งผลให้ต้องการพึ่งพาการนำเข้าอย่างมาก ส่วนการจัดซื้อได้นั้นก็จำเป็นต้องได้รับใบอนุญาตสถานที่ผลิตวัคซีน

อนึ่ง ญี่ปุ่นกำหนดให้มีการทดลองทางคลินิกของวัคซีนโควิด-19 กับอาสาสมัครในท้องถิ่น ซึ่งข้อกำหนดที่ไม่เหมือนกับประเทศอื่นนี้เองที่ทำให้กระบวนการอนุมัติล่าช้า โดยจนถึงขณะนี้ มีเพียงวัคซีนของไฟเซอร์-ไบออนเทคเท่านั้นที่ผ่านการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแลของญี่ปุ่น ขณะที่วัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้าที่พัฒนาร่วมกับมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด และวัคซีนโมเดอร์นาของสหรัฐกำลังอยู่ระหว่างการทดลองทางคลินิกและรอการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแลของญี่ปุ่น ซึ่งคาดว่าจะได้รับการอนุมัติในเดือนพ.ค.

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 เม.ย. 64)

Tags: , , , , ,
Back to Top