สธ.พบผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ 1,543 ราย ในปท. 1,161-ตรวจเชิงรุก 379-ตปท. 3

  • ศบค.สรุปยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในไทย วันนี้ (11.30 น.)
  • ผู้ติดเชื้อสะสม 37,453 คน (+1,543)
    • เป็นผู้ป่วยรายใหม่จากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ = 1,161 ราย
    • เป็นผู้ติดเชื้อจากการตรวจเชิงรุกในชุมชน = 379 ราย
    • เป็นผู้ติดเชื้อจากต่างประเทศอยู่ในสถานกักกันที่รัฐจัดให้ (State Quarantine) = 3 ราย
    • เป็นผู้ติดเชื้อจากต่างประเทศไม่เข้าสถานที่กักกัน = 0 ราย
  • รักษาหายแล้ว 28,383 คน (+61)
  • รักษาอยู่ในโรงพยาบาล 8,973 คน
  • เสียชีวิตสะสม 97 คน (+0)

กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1,543 ราย ประกอบด้วย ผู้ติดเชื้อในประเทศจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 1,161 ราย และจากการค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน 379 ราย และผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 3 ราย

ทั้งนี้ จำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมในประเทศล่าสุดอยู่ที่ 37,453 ราย แบ่งเป็นผู้ป่วยที่ติดเชื้อภายในประเทศ 15,134 ราย และการตรวจคัดกรองเชิงรุก 19,095 ราย ส่วนผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 3,224 ราย โดยมีผู้ป่วยรักษาหายแล้ว 28,383 ราย เพิ่มขึ้น 61 ราย ยอดเสียชีวิตสะสม 97 ราย

นพ.เฉวตสรร นามวาท รักษาราชการแทนผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า สำหรับข้อมูลการระบาดของไวรัสโควิด-19 เฉพาะรอบใหม่ในเดือนเม.ย.64 นี้ มีผู้ป่วยสะสม 7,074 ราย อยู่ในระหว่างการรักษาตัวและรักษาหายแล้ว 98.58% ส่วนอัตราผู้เสียชีวิต 3 ราย คิดเป็น 0.03% ในขณะที่การระบาดระลอกปลายปี 63 (15 ธ.ค.63 – 31 มี.ค.64) มีจำนวนผู้ป่วย 24,626 ราย รักษาหายแล้ว 99.86% เสียชีวิต 34 ราย คิดเป็น 0.14%

“คนไทยที่เข้าถึงระบบบริการสาธารณสุขของประเทศที่มีอย่างดีอยู่แล้ว จะได้เบาใจ ไม่กังวล แม้โควิดจะเป็นโรคติดต่ออันตรายในภาวะฉุกเฉินนี้ แต่มาตรฐานการดูแลของเรา เกือบ 100% ที่รักษาหาย และอัตราการเสียชีวิตต่ำมาก”

นพ.เฉวตสรรกล่าว

พร้อมระบุว่า กลุ่มเสี่ยงที่เกิดขึ้นจากการระบาดรอบใหม่นี้เป็นวัยทำงาน และเชื่อมโยงกับสถานบันเทิงทั้งในกรุงเทพฯ และจังหวัดอื่นๆ ด้วย โดยล่าสุดมีรายงานพบผู้ติดเชื้อโควิดในประเทศรวมแล้ว 75 จังหวัด ยังเหลือเพียง 2 จังหวัด คือ ระนอง และสตูล ที่ไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อ

นพ.เฉวตสรร กล่าวว่า แนวโน้มยังพบการรายงานผู้ติดเชื้อโควิดในประเทศอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้สัมผัสภายในครอบครัวและผู้สัมผัสใกล้ชิดอื่นๆ ที่เชื่อมโยงกับผู้ติดเชื้อที่มาจากการรวมกลุ่มกันของคนจำนวนมาก เช่น สถานบันเทิง งานเลี้ยงสังสรรค์ การประชุมสัมมนา หรือการออกค่ายของนักศึกษา เป็นต้น ดังนั้นเพื่อลดความเสี่ยงของการแพร่ระบาดที่จะเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงหลังเทศกาลสงกรานต์ มาตรการที่ควรปฏิบัติคือการให้ทำงานจากที่บ้าน (Work from Home) เพราะหากยังมีการไปพบปะกันในสถานที่ทำงาน จะยิ่งมีโอกาสเสี่ยงในการกระจายเชื้อต่อกันได้ รวมทั้งต้องมีการติดตามดูแลผู้สัมผัสเสี่ยงสูงให้กักตัวครบตามกำหนด 14 วันด้วย

นพ.เฉวตสรร ยังกล่าวถึงกระแสข่าวการล็อกดาวน์ หลังพบการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดในปรเทศเพิ่มขึ้นระดับหลักพันคนต่อวันว่า กระทรวงสาธารณสุขมีการประชุมศูนย์ปฏิบัติการในภาวะฉุกเฉินระดับกระทรวงทุกเช้า ซึ่งได้ประเมินสถานการณ์เป็นรายวัน และเมื่อเห็นแนวโน้มการติดเชื้อที่เพิ่มสูงมากขึ้น ก็จะมีการเสนอมาตรการจากผู้เชี่ยวชาญ โดยเป็นมาตรการหนัก-เบา ไปตามแต่ละพื้นที่ที่มีสถานการณ์ที่แตกต่างกัน ซึ่งในรายละเอียดจะได้นำเข้าสู่การพิจารณาของกรรมการวิชาการ ในคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ช่วงบ่ายวันนี้ ก่อนจะนำมติที่ได้ไปเสนอต่อที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค.ชุดใหญ่ ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานในวันพรุ่งนี้ (16 เม.ย.) ต่อไป

สำหรับข้อมูลจำนวนผู้ได้รับวัคซีนต้านไวรัสโควิด ล่าสุดตั้งแต่ 28 ก.พ. – 14 เม.ย.64 มีผู้ได้รับวัคซีนเข็มแรกแล้ว 507,360 ราย และเข็มสอง 73,948 ราย ซึ่งมีความก้าวหน้าเป็นไปตามแผนที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดไว้

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 เม.ย. 64)

Tags: , , , ,
Back to Top