วินเนอร์ยี่ เมดิคอล คาดเปิดขาย IPO 120 ล้านหุ้นปลายเม.ย.เข้าเทรดกลาง พ.ค.

นายสมศักดิ์ ศิริชัยนฤมิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของ บมจ.วินเนอร์ยี่ เมดิคอล (WINMED) เปิดเผยในการนำข้อเสนอข้อมูลให้กับนักลงทุน (โรดโชว์) วันนี้ว่า WINMED เตรียมเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 120 ล้านหุ้น ช่วงปลายเดือน เม.ย. 64 และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) กลางเดือนพ.ค.นี้

วัตถุประสงค์ในการระดมเงินทุนในครั้งนี้เพื่อก่อสร้างห้องปฏิบัติการตรวจหาเชื้อไวรัส HPV ห้องปฏิบัติการที่ครอบคลุมด้านงานการเตรียมผลิตภัณฑ์เซลล์เพื่อการรักษา (Cell Therapy) รวมทั้งชำระคืนเงินกู้ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ

WINMED เป็นผู้นำในด้านการจำหน่ายชุดตรวจเพื่อการวิเคราะห์ วินิจฉัย และ/หรือ บำบัดรักษา รวมถึงเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ จากประสบการณ์ในการประกอบธุรกิจมากว่า 24 ปี ทำให้ได้รับความเชื่อถือจากลูกค้าเป็นอย่างดี ซึ่งธุรกิจของบริษัทถือว่าเป็นธุรกิจเฉพาะทางที่มีความจำเป็นในทางการแพทย์เป็นอย่างมาก ถือว่าเป็นเครื่องการันตีถึงคุณภาพสินค้าว่ามีมาตรฐานในระดับสูง

“ด้วยความเชี่ยวชาญของคณะกรรมการและผู้บริหารของบริษัท จะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับวินเนอร์ยี่ เมดิคอล และสามารถรักษาความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม และเมื่อเข้าตลาดแล้วจะยิ่งตอกย้ำความตั้งใจของผู้บริหารที่จะสร้างความมั่นคงและยั่งยืนให้กับองค์กรตลอดไป” นายสมศักดิ์ กล่าว

นายนันทิยะ ดารกานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร WINMED กล่าวว่า การเข้าจดทะเบียนในตลาด mai ทำให้บริษัทได้รับความเชื่อถือ และความไว้วางใจจากลูกค้ามากยิ่งขึ้น ด้วยการดำเนินธุรกิจอย่างโปร่งใส และมีธรรมาภิบาล ซึ่งเป็นไปตามกฎเกณฑ์และเงื่อนไขของ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์

สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนนั้นบริษัทจะนำไปเพื่อก่อสร้างห้องปฏิบัติการตรวจหาเชื้อไวรัส HPV ผ่านชุดเก็บเซลล์ผิดปกติที่ปากมดลูก จากช่องคลอดด้วยตนเอง (Self Collect) และก่อสร้างห้องปฏิบัติการที่ครอบคลุมด้านงานการเตรียมผลิตภัณฑ์เซลล์เพื่อการรักษาด้วยวิธีเซลล์บำบัด (Cell Therapy)

ขณะเดียวกัน บริษัทจะลงทุนห้องปฏิบัติการตรวจหาเชื้อไวรัส HPV ผ่านชุดเก็บเซลล์ผิดปกติที่ปากมดลูก จากช่องคลอดด้วยตนเอง (Self Collect) คาดว่าจะสามารถสร้างรายได้เข้ามาให้กับบริษัทได้ภายในไตรมาส 3/64 และการลงทุนห้องปฏิบัติการที่ครอบคลุมด้านงานการเตรียมผลิตภัณฑ์เซลล์เพื่อการรักษาด้วยวิธีเซลล์บำบัด (Cell Therapy) คาดว่าจะสามารถสร้างรายได้ให้กับบริษัทเข้ามาได้ในช่วงไตรมาส 1/65

ผลประกอบการของบริษัทในปี 63 มีการกระจายสัดส่วนรายได้จากกลุ่มผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ในระดับที่สมดุลกัน โดยที่กลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพสตรี มีสัดส่วนรายได้อยู่ที่ 29.43% กลุ่มธนาคารโลหิต มีสัดส่วนรายได้ 31.76% กลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลความปลอดภัยโลหิต มีสัดส่วนรายได้ 33.6% และส่วนที่เหลือเป็นสัดส่วนรายได้ผลิตภัณฑ์เทคโยโลยี โดยในปี 63 บริษัทมีรายได้รวม 531.05 ล้านบาท กำไรสุทธิ 51.59 ล้านบาท

กลุ่มลูกค้าของบริษัทส่วนใหญ่เป็นหน่วยงานภาครัฐ ทั้งโรงพยาบาลรัฐและสภากาชาดไทย ที่มีสัดส่วนมากถึง 75% ทำให้บริษัทมีความมั่นใจว่าจะมีรายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง และอีก 25% เป็นกลุ่มลูกค้าเอกชน

นอกจากนี้ การที่บริษัทจะนำเงินระดมทุนจากการเสนอขายหุ้น IPO ส่วนหนึ่งไปใช้ชำระคืนหนี้สถาบันการเงิน จะทำให้บริษัทมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) ลดลงเหลือ 1.6 เท่า จากก่อนเสนอขาย IPO อยู่ที่ 2 เท่า ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยลดลง และเพิ่มความสามารถในการทำกำไรได้มากขึ้น

“เรามีความมั่นใจหลังจากที่เข้าตลาดแล้วจะผลักดันการเติบโตของธุรกิจขึ้นไปต่อเนื่อง จากประสบการณ์ในการประกอบธุรกิจมากกว่า 24 ปี ทำให้ได้รับความเชื่อถือจากลูกค้าเป็นอย่างดี ซึ่งธุรกิจของบริษัทถือว่าเป็นธุรกิจเฉพาะทางที่มีความจำเป็นในทางการแพทย์ และมีโอกาสที่จะเติบโตในทิศทางที่ดี” นายนันทิยะ กล่าว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 เม.ย. 64)

Tags: , , , ,
Back to Top