ครม.อนุมัติเพิ่มเงินโครงการเราชนะ และ เรารักกัน อีก 1,000 บาทเป็นเวลา 2 สัปดาห์

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบเพิ่มเงินสนับสนุนในโครงการ “เราชนะ” อีกคนละ 1,000 บาท/สัปดาห์ เป็นเวลา 2 สัปดาห์ รวม 2,000 บาท โดยมีประชาชนได้รับประโยชน์ ถึง 33.5 ล้านคน รวมทั้งมีมติเพิ่มเงินช่วยเหลือผู้ประกันตน โครงการ “ม33 เรารักกัน” อีกคนละ 1,000 บาท/สัปดาห์ เป็นระยะเวลา 2 สัปดาห์ รวม 2,000 บาท และขยายเวลาฃองโครงการออกไปถึงสิ้นเดือนมิถุนายนนี้ ซึ่งจะสามารถช่วยเหลือประชาชนได้มากกว่า 8 ล้านคน

พร้อมกันนี้ ที่ประชุม ครม.ยังได้อนุมัติโครงการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก วงเงิน 45,000 ล้าน เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจท้องถิ่นและชุมชน บนพื้นฐานของโอกาสและศักยภาพของท้องถิ่น ซึ่งจะเร่งดำเนินการทันที เมื่อสถานการณ์ของโควิด-19 บรรเทาลง โดยจะมีคณะกรรมการ “ขับเคลื่อนไทยไปด้วยกัน” เป็นกลไกสำคัญ ภายใต้การติดตามของรองนายกรัฐมนตรีทุกคน

น.ส.กุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในวันนี้ครม.ได้มีมติเห็นชอบให้สนับสนุนวงเงินสิทธิเพิ่มเติมให้แก่ผู้ได้รับสิทธิภายใต้โครงการ “เราชนะ” ที่ไม่เคยขอสละสิทธิการเข้าร่วมโครงการฯ คนละ 1,000 บาท เป็นระยะเวลา 2 สัปดาห์ รวมเป็นเงิน 2,000 บาท โดยประชาชนจะได้รับการโอนวงเงินสิทธิตามช่องทางที่เคยได้รับของแต่ละกลุ่มโดยอัตโนมัติ

ทั้งนี้ สำหรับประชาชนกลุ่มที่รับสิทธิ์ผ่านทางแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” จะได้รับการโอนวงเงินสิทธิในวันพฤหัสบดีที่ 20 และ 27 พฤษภาคม 2564 และสำหรับประชาชนกลุ่มผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และประชาชนกลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษหรือกลุ่มผู้ไม่มีสมาร์ทโฟน จะได้รับการโอนวงเงินสิทธิในวันศุกร์ที่ 21 และ 28 พฤษภาคม 2564 โดยวงเงินสิทธิที่ได้รับสนับสนุนเพิ่มเติมดังกล่าวสามารถใช้จ่ายได้จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2564

นอกจากนี้ โฆษกกระทรวงการคลังได้เน้นย้ำว่า สำหรับประชาชนกลุ่มรับสิทธิผ่านทางแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ที่ได้ถอนการติดตั้ง (Uninstalling) แอปพลิเคชันไปแล้ว สามารถดาวน์โหลดและติดตั้งแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” เพื่อใช้จ่ายวงเงินสิทธิที่ได้รับการสนับสนุนเพิ่มเติมในครั้งนี้ ได้จนถึงระยะเวลาสิ้นสุดของโครงการฯ

ขณะที่ความคืบหน้าของโครงการฯ ณ วันที่ 11 พฤษภาคม 2564

  • 1) ประชาชนกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 13.7 ล้านคน ได้มีการใช้จ่ายตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นมา จำนวน 73,843 ล้านบาท
  • 2) ประชาชนกลุ่มแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ในโครงการเราเที่ยวด้วยกัน และคนละครึ่ง และประชาชนกลุ่มผู้ลงทะเบียนทางเว็บไซต์ www.เราชนะ.com ที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติเบื้องต้นและยืนยันการใช้สิทธิร่วมโครงการฯ แล้ว จำนวน 16.8 ล้านคน และมีการใช้จ่ายวงเงินสิทธิสะสมตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นมา จำนวน 115,724 ล้านบาท
  • 3) ประชาชนกลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติแล้ว จำนวน 2.4 ล้านคน มียอดใช้จ่ายวงเงินสิทธิสะสมตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคม 2564 เป็นต้นมา จำนวน 15,461 ล้านบาท

ทำให้มีผู้ได้รับสิทธิในโครงการฯ แล้ว รวมทั้งสิ้นจำนวน 32.9 ล้านคน คิดเป็นมูลค่าการใช้จ่ายหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจไทยแล้วกว่า 205,028 ล้านบาท และมีผู้ได้รับสิทธิในโครงการฯ ที่ใช้จ่ายจนครบวงเงินสิทธิ์แล้ว จำนวน 25.2 ล้านคน ซึ่งเป็นการใช้จ่ายผ่านผู้ประกอบการร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นที่มีแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ร้านค้าคนละครึ่งที่ตกลงยินยอมเข้าร่วมโครงการฯ รวมถึงผู้ประกอบการร้านค้าและผู้ให้บริการที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ จำนวนทั้งสิ้นมากกว่า 1.3 ล้านกิจการ

ด้านนายนายอนุชา บูรพชัยศรี  โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำหรับโครงการ ม33 เรารักกัน จะได้รับเงินจำนวน 2,000 บาทต่อคนเช่นกัน โดยจะได้รับเงิน 1,000 บาท ครั้งแรกในวันที่  24 พ.ค. 64 และอีก 1,000 บาทในวันที่  31 พ.ค. 64 นี้

ส่วนโครงการเยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจอื่นๆ เช่น โครงการคนละครึ่งระยะที่ 3 และโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ กระทรวงการคลังจะเสนอเพื่อให้ครม.พิจารณาในระยะต่อไป

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 พ.ค. 64)

Tags: , , , , ,
Back to Top