CKP คาด Q2/64 โตต่อเนื่องรับปริมาณน้ำหน้าฝนหนุนโรงไฟฟ้าหลักทั้ง 2 แห่ง

นายธนวัฒน์ ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ซีเค พาวเวอร์ (CKP) เปิดเผยว่า ในไตรมาส 2/64 บริษัทคาดว่าผลการดำเนินงานจะสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง จากปริมาณน้ำที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นตามฤดูกาล ซึ่งโดยปกติจะเริ่มเข้าสู่หน้าฝนในช่วงปลายไตรมาส 2 โดยคาดว่าจะส่งผลดีกับการผลิตไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าพลังน้ำทั้งสองแห่งของบริษัทฯ

ขณะที่ผลประกอบการในไตรมาส 1/64 ยังคงทำกำไรต่อเนื่อง โดยมีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ 114.6 ล้านบาท เติบโตขึ้น 454.1 ล้านบาท หรือ 133.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุน 339.5 ล้านบาท และมีรายได้รวม 2,101.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 339.0 ล้านบาท หรือ 19.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 1,762.0 ล้านบาท

ทั้งนี้ ปัจจัยบวกหลักมาจากผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นของโรงไฟฟ้าพลังน้ำ น้ำงึม 2 และโรงไฟฟ้าพลังน้ำ ไซยะบุรี โดยรายได้จากการขายไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าพลังน้ำ น้ำงึม 2 เพิ่มขึ้น 383.0 ล้านบาท หรือ 101.9% จากมีปริมาณน้ำสะสม ณ ต้นปี 64 ที่อยู่ในระดับสูงรวมถึงปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำในช่วงไตรมาส 1/64 ที่มากกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน

ในขณะที่โรงไฟฟ้าพลังน้ำ ไซยะบุรี มีผลประกอบการในไตรมาส 1/64 ดีขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนเป็นอย่างมากจากสถานการณ์ปริมาณน้ำในแม่น้ำโขงที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ส่วนแบ่งกำไรขาดทุนจากเงินลงทุนในกิจการที่ควบคุมร่วมกันและบริษัทร่วมในไตรมาส 1/64 ซึ่งส่วนใหญ่มาจากโรงไฟฟ้าพลังน้ำ ไซยะบุรี ปรับตัวดีขึ้น 297.3 ล้านบาท หรือ 90.2%

นอกจากนี้ โรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมและโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ก็มีผลประกอบการที่ดีขึ้นในไตรมาส 1/64 โดยโรงไฟฟ้าบางปะอิน โคเจนเนอเรชั่น มีผลประกอบการที่ดีขึ้นจากค่าใช้จ่ายทางการเงินที่ลดลง ในขณะที่โรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ภายใต้บริษัท บางเขนชัย จำกัด ก็มีผลประกอบการดีขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการเปลี่ยนแผงโซลาร์เซลล์ใหม่ ตั้งแต่ช่วงไตรมาส 3/63 ทำให้ประสิทธิภาพในการผลิตไฟฟ้าโดยรวมดีขึ้น

ประกอบกับโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินอีกแห่งที่มีกำลังการผลิต 2.67 เมกะวัตต์ เริ่มผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าให้กับผู้ประกอบการภาคเอกชนเมื่อเดือน ก.ย.63 ส่งผลให้ปริมาณการขายไฟฟ้าในไตรมาส 1/64 เพิ่มขึ้น

นายธนวัฒน์ กล่าวเสริมว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในปัจจุบัน CKP และบริษัทในเครือไม่ได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 พ.ค. 64)

Tags: , , , ,
Back to Top