สหรัฐเร่งแก้ปัญหาขาดแคลนน้ำมัน หลังท่อส่งน้ำมันโคโลเนียลกลับมาเปิดดำเนินการ

ประธานาธิบดีโจ ไบเดนสหรัฐออกแถลงข่าวเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนชาวอเมริกันผู้ใช้ถนนว่า ปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิงจะเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติภายในสุดสัปดาห์นี้ หลังจากปั๊มน้ำมันหลายแห่งในภาคตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐประสบปัญหาขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับจำหน่าย อันเนื่องมาจากท่อส่งน้ำมันของบริษัทโคโลเนียล ไปป์ไลน์ ถูกโจมตีทางไซเบอร์

บริษัทโคโลเนียล ไปป์ไลน์เปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า ขณะนี้ระบบท่อส่งน้ำมันเชื้อเพลิงและเส้นทางขนส่งทั้งหมดกลับมาเปิดใช้งานได้แล้วสำหรับตลาดที่ใช้บริการของบริษัท อย่างไรก็ดี อาจต้องใช้เวลาหลายวัน กว่าที่ห่วงโซ่อุปทานของเส้นทางขนส่งเชื้อเพลิงที่ยาว 5.5 พันไมล์ (8.85 พันกิโลเมตร) จะกลับคืนสู่ภาวะปกติ

โคโลเนียล ไปป์ไลน์ยอมรับว่า ตลาดบางแห่งที่ใช้บริการบริษัทอาจประสบปัญหาหรือยังคงประสบปัญหาการหยุดชะงักของบริการเป็นระยะๆ ซึ่งตรงกับสิ่งที่ปธน.ไบเดนกล่าวเมื่อก่อนหน้านี้ว่า อาจจะยังมีปัญหาเล็กน้อยอยู่บ้าง

ท่อส่งน้ำมันโคโลเนียลได้ลำเลียงขนส่งน้ำมันเบนซิน น้ำมันดีเซล และน้ำมันเครื่องบิน 100 ล้านแกลลอนต่อวัน และได้กลับมาทำการขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิงโดยควบคุมระบบด้วยคอมพิวเตอร์แล้วตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 12 พ.ค. หลังจากมีการเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย

สถานการณ์ขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิงในพื้นที่รัฐเวอร์จิเนียจนถึงรัฐฟลอริดาย่ำแย่ลง เนื่องจากแหล่งจัดเก็บและกระจายน้ำมันเชื้อเพลิงยังคงรอให้น้ำมันเชื้อเพลิงส่งมาถึง การหยุดชะงักครั้งนี้ยังส่งผลให้โรงกลั่นน้ำมัน 2 แห่งต้องลดกำลังการผลิตลง และทำให้สายการบินต่างๆ ต้องเปลี่ยนเส้นทางการบินเพื่อหลีกเลี่ยงการลงจอดในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ นอกจากนี้ ประชาชนยังเกิดความไม่พอใจอย่างมาก หลังการแห่เติมน้ำมันด้วยความตื่นตระหนกได้ทำให้ปั๊มน้ำมันหลายแห่งไม่มีน้ำมันเชื้อเพลิงจำหน่าย แม้ว่าจะยังมีน้ำมันเชื้อเพลิงในพื้นที่ก็ตาม

นางเจเน็ตต์ แม็คจี โฆษกสมาคมผู้ใช้รถยนต์แห่งสหรัฐ (American Automobile Association หรือ AAA) กล่าวว่า “จะมีการแก้ไขปัญหาเร็วๆ นี้”

ทางด้านนางเจนนิเฟอร์ แกรนโฮล์ม รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานสหรัฐ ระบุว่า การกลับมาเปิดท่อส่งเชื้อเพลิงจะแก้ปัญหาขาดแคลนเชื้อเพลิงอย่างหนักในบางพื้นที่ได้เร็วที่สุดตั้งแต่วันที่ 13 พ.ค. เป็นต้นไป

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 พ.ค. 64)

Tags: , , , , , , ,
Back to Top