EKH คาดปีนี้รายได้โต 20% หลังงบ Q1/64 ดีตามคาด-เปิดศูนย์เฉพาะทางเพิ่ม

นายแพทย์อำนาจ เอื้ออารีมิตร กรรมการและผู้อำนวยการโรงพยาบาล บมจ. เอกชัยการแพทย์ (EKH) เปิดเผยว่า ผลประกอบการงวดไตรมาส 1/64 (สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2564) มีกำไรสุทธิ 33.46 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.21 ล้านบาท หรือ 197.42% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 11.25 ล้านบาท ขณะที่รายได้รวมเท่ากับ 215.24 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.21 ล้านบาท หรือ 15.08 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 187.03 ล้านบาท

สาเหตุที่ผลการดำเนินงานปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีรายได้จากกิจการโรงพยาบาลเพิ่มขึ้น จากจำนวนผู้ป่วยนอก (OPD) และผู้ป่วยใน (IPD) โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอก 2 ทำให้บริษัทฯ เดินหน้ารุกขยายการเปิดบริการตรวจเชื้อโควิด-19 อย่างเข้มข้น ซึ่งเปิดรับลูกค้าทั้งแบบ Drive Thru Covid-19 และ Delivery ด้วยเทคนิคมาตรฐาน RT-PCR ความแม่นยำสูงได้มาตรฐานสามารถรู้ผลภายใน 24- 48 ชั่วโมง ขณะเดียวกันจำนวนผู้เข้ารับการรักษาโควิดเพิ่มขึ้น จนเกือบเต็มเช่นเดียวกับผู้ป่วย IPD และผู้ป่วย OPD จึงช่วยสนับสนุนให้รายได้ และกำไรปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

“ผลประกอบการไตรมาส 1/64 ของบริษัทฯ ออกมาเป็นที่น่าพอใจ และเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ ส่วนภาพรวมธุรกิจในปีนี้ ประเมินว่าน่าจะเติบโตอย่างมีเสถียรภาพมากขึ้น โดยยังคงมุ่งเน้นขยายศูนย์ให้บริการทางการแพทย์อย่างเข้มข้น ซึ่งปีนี้จะได้เห็นการขยายศูนย์กายภาพบำบัดเพิ่ม รวมถึงมีแผนทำคลินิกกัญชาทางการแพทย์ในอนาคต เพื่อผลักดันรายได้และกำไรให้ปรับตัวเพิ่มขึ้นโดดเด่นอย่างต่อเนื่อง”

นายแพทย์อำนาจ กล่าวต่อถึงแนวโน้มธุรกิจเชื่อว่า ยังคงเติบโตได้ดี เนื่องจาก ภาพรวมธุรกิจโรงพยาบาลมีสัญญาณการฟื้นตัวอย่างโดดเด่น โดยบริษัทฯ เดินหน้ารุกขยายเปิดบริการตรวจเชื้อโควิด-19 อย่างเข้มข้น ประกอบกับการให้บริการทางการแพทย์ ในด้านต่าง ๆ ยังสามารถเติบโตในเกณฑ์ที่น่าพอใจ ซึ่งมีผู้ป่วยกลับมาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ บริษัทฯยังเปิดให้บริการรักษาโรคเฉพาะทางมากขึ้น โดยที่ผ่านมาได้ขยายศูนย์กุมารเวชศูนย์ หู ตา คอ จมูก ศูนย์ทันตกรรม และในปีนี้จะมีการขยายศูนย์กายภาพบำบัด จึงทำให้มีขีดความสามารถในการรองรับการเข้ามาใช้บริการของคนไข้ได้เพิ่มมากขึ้น จึงเชื่อมั่นว่าจะทำให้รายได้ปี 2564 เติบโตไม่ต่ำกว่า20% จากงวดเดียวกันปีก่อน

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 พ.ค. 64)

Tags: , , , ,
Back to Top