เงินบาทเปิด 31.39 ต่อดอลล์ แข็งค่าจากวานนี้ หลังดอลลาร์อ่อนค่า คาดกรอบวันนี้ 31.35-31.50

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 31.39 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวแข็งค่าจากปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 31.45 บาท/ดอลลาร์ หลังดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับทุกสกุลเงินหลัก เนื่องจากนักลงทุนคลายกังวลกรณีที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยกเลิกมาตรการผ่อนคลายนโยบายทางการเงิน แต่เนื่องจากในประเทศและภูมิภาคมีปัจจัยเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ค่าเงินบาทไม่แข็งค่ามาก

“บาทแข็งค่าจากปิดตลาดเย็นวานนี้ หลังดอลลาร์อ่อนค่าเนื่องจากนักลงทุนคลายกังวลเรื่องเฟดจะยกเลิกนโยบายผ่อนคลายทางการเงิน”

นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงินประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 31.35 – 31.50 บาท/ดอลลาร์

THAI BAHT FIX 3M (18 พ.ค.) อยู่ที่ระดับ 0.32649% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 0.33633%

ปัจจัยสำคัญ

  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 108.93 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 108.90/95 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.2231 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.2218/2219 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 31.465 บาท/ดอลลาร์
  • ครม.ดอดเคาะออก พ.ร.ก.กู้เงินอีก 7 แสนล้านบาท ใช้ฟื้นฟูและเยียวยาเศรษฐกิจจากวิกฤติโควิด-19 ระลอกใหม่ พร้อมไฟเขียวเว้นภาษีอากรและผ่อนปรนหลักเกณฑ์ให้ผู้ประกอบการที่เข้าโครงการพักทรัพย์ พักหนี้ ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนผู้ประกอบธุรกิจ
  • รองเลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยว่า ในปี 64-65 รัฐบาลยังคงมีวงเงินเพียงพอสำหรับการทำมาตรการเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ และเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งปัจจุบันการดำเนินการของแผนงานและโครงการภายใต้ พ.ร.ก. เงินกู้โควิด-19 วงเงิน 1 ล้านล้านบาทนั้น มีการอนุมัติวงเงินไปแล้วรวมทั้งสิ้น 833,475 ล้านบาท โดยยังมีวงเงินคงเหลืออีกมากถึง 166,525 ล้านบาท รวมทั้งยังมีแหล่งเงินอื่น ที่สามารถนำมารองรับมาตรการต่างๆ ของรัฐบาลได้
  • อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ไทยและจีนจะประชุมคณะทำงานเพื่อส่งเสริมการค้าอย่างไร้อุปสรรค วันที่ 20 พฤษภาคมนี้ ผ่านระบบการประชุมทางไกล เพื่อร่วมกันหาแนวทางส่งเสริมความร่วมมือ แก้ไขปัญหาและอุปสรรคทางการค้าระหว่างกัน
  • ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยภายหลังระดมความเห็น เพื่อเร่งช่วยเหลือให้เอสเอ็มอีเข้าถึงแหล่งเงิน เพื่อนำเงินไปหมุนเวียนธุรกิจได้ ร่วมกับสมาคมผู้ค้าปลีกไทย สมาคมศูนย์การค้าไทยว่า ผู้ประกอบการค้าปลีกขอให้ธนาคารพาณิชย์หารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อพิจารณาผ่อนผันให้เอสเอ็มอี ที่ติดเครดิตบูโร หรืออยู่ระหว่างปรับโครงสร้างหนี้ (เอ็นพีแอล) ที่มียอดขายดี และสม่าเสมอ ให้เข้าถึงสินเชื่อซอฟต์โลน และสินเชื่อที่มีระยะเวลา (เทอม โลน) ได้ง่ายขึ้น โดยใช้ข้อมูลสนับสนุนจากผู้ประกอบการค้าปลีกประกอบการพิจารณาเป็นหลักประกัน
  • นักเศรษฐศาสตร์ ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) เปิดเผยว่า ธนาคารได้ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทย (จีดีพี) ปี 2564 เติบโตที่ 1.8% จากเดิม 2.4% สะท้อนจากยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มสูงขึ้น การฟื้นของภาคการท่องเที่ยวยังไม่ชัดเจน และการนำเข้าที่เพิ่มสูงขึ้นสำหรับจีดีพีปี 2565 ปรับประมาณการขึ้นเป็น 3.1% จากเดิม 3.0% จากฐานที่ต่ำลง
  • ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ให้ความเห็นต่อเศรษฐกิจไทยว่า เศรษฐกิจไตรมาสแรกของปี 2564 หดตัวต่อเนื่อง เป็นไตรมาสที่ 5 ที่ -2.6% เมื่อเทียบกับ ปีก่อนหน้านี้ (YoY) คาดทั้งปีขยายตัว 2.0% เศรษฐกิจ หรือ GDP ในไตรมาสแรก ของปีนี้ปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับ -4.2% ในไตรมาสสุดท้ายของปีก่อน และหดตัว น้อยกว่าที่วิจัยกรุงศรีและผลสำรวจ Bloomberg คาดไว้ที่ -3.3% และ -3.6% ตามลำดับ
  • กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านดิ่งลง 9.5% ในเดือนเม.ย. สู่ระดับ 1.569 ล้านยูนิต และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.710 ล้านยูนิต โดยได้รับผลกระทบจากการพุ่งขึ้นของราคาไม้ และวัสดุอื่นๆในการสร้างบ้าน
  • ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (18 พ.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากการที่นักลงทุนคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (18 พ.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงติดต่อกันเป็นวันที่สอง รวมทั้งคำสั่งซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซา
  • นักลงทุนจับตารายงานการประชุมนโยบายการเงินของเฟดประจำวันที่ 27-28 เม.ย.ซึ่งจะมีการเผยแพร่ในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางนโยบายอัตราดอกเบี้ยของเฟด หลังมีการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นเกินคาด
  • ข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ด้วย ซึ่งได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีการผลิตเดือนพ.ค.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นต้นเดือนพ.ค.จากมาร์กิต, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้นเดือนพ.ค.จากมาร์กิต และยอดขายบ้านมือสองเดือนเม.ย.

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 พ.ค. 64)

Tags: , ,
Back to Top