ADD ปิดเทรดช่วงเช้าที่ 16.40 บาท สูงกว่าราคาขาย IPO 49.09%

หุ้น ADD ปิดเทรดช่วงเช้าที่ 16.40 บาท เพิ่มขึ้น 5.40 บาท (+49.09%) จากราคาขาย IPO ที่ 11 บาท/หุ้น มูลค่าซื้อขาย1,419.63 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 17.30 บาท ราคาขึ้นสูงสุด 18.10 บาท และราคาลงต่ำสุด 15.80 บาท

นายชวัล บุญประกอบศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.แอดเทค ฮับ (ADD) เปิดเผยว่า บริษัทคาดรายได้ปี 64 จะทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง จากปีก่อนที่มีรายได้ 345.53 ล้านบาท โดยบริษัทได้รับปัจจัยหนุนจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้รูปแบบการทำงานของทั้งภาครัฐและเอกชนเปลี่ยนมาเป็นการทำงานที่บ้าน (Work From Home) มากยิ่งขึ้น

ADD เป็นผู้นำในการพัฒนาและดูแลรักษาระบบสนับสนุนการให้บริการดิจิทัลคอนเทนต์ และให้บริการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ (โอเปอเรเตอร์) ซึ่งการทำงานของทั้งภาครัฐและเอกชนที่มีการปรับเปี่ยนไปทำให้ความต้องการใช้บริการดิจิทัลคอนเทนต์ต่างๆเพิ่มมากขึ้น ทำให้บริษัทมีการเติบโตขึ้นตามไปด้วย

นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างการเจรจากับโอเปอเรเตอร์รายใหญ่เพื่อที่จะให้บริการเพิ่มเติมด้านพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยคาดว่าจะเห็นความชัดเจนและเริ่มให้บริการได้ในช่วงครึ่งปีหลังอย่างน้อย 2 โครงการ ซึ่งหลังจากการระดมทุนในครั้งนี้แล้วจะสามารถต่อยอดโอกาสทางธุรกิจให้บริษัทมีความแข็งแกร่ง และมั่นคงในฐานะทางการเงินมากขึ้น

“การเข้าเทรดหุ้นในวันนี้ถือว่าราคาเป็นที่น่าพอใจ สะท้อนจากภาพรวมตลาดหุ้นและความมั่นใจในพื้นฐานของบริษัท โดยในปีนี้บริษัทยังคงมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะเห็นจากช่วงไตรมาส 1/64 ที่ผ่านมาบริษัทมีรายได้ 134.75 ล้านบาท หรือเติบโต 78.6% ซึ่งในช่วงที่เหลือของปีนี้ก็จะยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง นอกจากการเติบโตตามโอเปอเรเตอร์แล้ว บริษัทยังได้เข้าเจรจากับธนาคารพาณิชย์ต่าง ๆ เพิ่มเติม ซึ่งหลังจากการระดมทุนในครั้งนี้แล้ว จะสามารถต่อยอดโอกาสทางธุรกิจให้บริษัทมีความแข็งแกร่ง และมั่นคงในฐานะทางการเงินมากขึ้น”นายชวัล กล่าว

ด้านนายเอกจักร บัวหภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แคปปิตอล วัน พาร์ทเนอร์ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน ADD เปิดเผยว่า นักลงทุนเห็นถึงศักยภาพปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งของ ADD ที่มีประสบการณ์ความน่าเชื่อถือ โดยสนับสนุนการให้บริการดิจิทัลคอนเทนต์แก่ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่กว่า 15 ปี ทำให้บริษัทฯสามารถตอบโจทย์ตรงตามความต้องการของกลุ่มลูกค้าได้เป็นอย่างดี และสามารถเพิ่มช่องทางการขยายการให้บริการเพื่อต่อยอดไปยังรูปแบบต่างๆ อาทิ การพัฒนาระบบความปลอดภัย, การพัฒนาระบบชำระเงิน และการพัฒนาระบบบริหารจัดการรายการสั่งซื้อสินค้าและบริการ เป็นต้น

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 พ.ค. 64)

Tags: , ,
Back to Top