เงินบาทเปิด 31.26 ต่อดอลล์ แข็งค่าหลังดอลลาร์อ่อนค่า มองกรอบวันนี้ 31.20-31.35

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้าที่ระดับ 31.26 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวแข็งค่าจากปิดตลาดวันที่ 25 พ.ค.ที่ระดับ 31.36 บาท/ดอลลาร์

เงินบาทแข็งค่าจากเย็นวันอังคาร หลังดอลลาร์อ่อนค่า เนื่องจากตลาดกังวลเรื่องธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดวงเงิน QE ประกอบกับราคาทองในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น ทำให้มีแรงส่งออกจากผู้ค้าทองคำ

“บาทแข็งค่าจากเย็นวันอังคาร หลังดอลลาร์อ่อนค่าจากความกังวลเรื่องการปรับลด QE ประกอบกับมีแรงส่งออกทองคำหลังราคาสูงขึ้น”

นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงินประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 31.20 – 31.35 บาท/ดอลลาร์

THAI BAHT FIX 3M (25 พ.ค.) อยู่ที่ระดับ 0.28141% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 0.31805%

ปัจจัยสำคัญ

  • เงินเยนอยู่ที่ 109.16 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวันที่ 25 พ.ค.ที่ระดับ 108.80 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ 1.2184 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวันที่ 25 พ.ค.ที่ระดับ 1.2254 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 31.340 บาท/ดอลลาร์
  • ทองโลกนิวไฮทะลุ 1,900 เหรียญ นักลงทุนโยกเงิน หลังบิทคอยน์ร่วง-ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่า โบรกเกอร์เตือนราคาแพงแล้ว เน้นลงทุนระยะสั้น
  • อุปนายกสมาคมค้าทองคำ เปิดเผยว่า ปีนี้ราคาทองมีโอกาสปรับขึ้นถึงระดับ 29,000 บาท เช่นเดียวกับปี 63 ที่ผ่านมา โดยที่การปรับลดลงของดัชนีหุ้นและราคาบิตคอยน์ รวมทั้งค่าเงินบาท จะเป็นตัวแปรสำคัญของการปรับขึ้นในครั้งนี้ เห็นได้จากช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมานับจากวันที่ 10-26 พ.ค.นี้ ราคาทองคำปรับขึ้นมาแล้ว 1,250 บาท ซึ่งราคาทองคำแท่งสามารถขายออกที่บาทละ 28,000 บาท อีกครั้งในรอบ 1 ปี นับตั้งแต่วันที่ 24 พ.ค.ที่ผ่านมา
  • “คลัง” ฉายภาพอัด 1 แสนล้านบาท จาก พ.ร.ก.กู้เงินเพิ่มเติม 5 แสนล้านบาทเข้าระบบเศรษฐกิจ ช่วยกระทุ้งจีดีพีปีนี้ โตเพิ่มอีก 0.3% ยันมีคณะทำงานพิจารณาการใช้จ่ายเงินอย่างเหมาะสม ไม่ได้เอามาแจกทั้งหมด การันตีฐานะการคลังยังแกร่ง
  • กระทรวงการคลัง เผย 3 กรมภาษี กรมสรรพากร กรมสรรพสามิต และกรมศุลกากร จัดเก็บรายได้สุทธิของรัฐบาลในช่วง 7 เดือนของปีงบประมาณ 2564 (ต.ค.2563-เม.ย.2564) อยู่ที่ 1.22 ล้านล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณจำนวน 1.28 แสนล้านบาท หรือ 9.5% และต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 7.82 หมื่นล้านบาท หรือ 6% ผลจากโควิด-19 ระบาดหนัก
  • ประธานเจ้าหน้าที่บริหารธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธนาคารเร่งช่วยเหลือลูกค้าธุรกิจที่ได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมจากโควิด-19 ระลอก 3 อย่างเต็มที่ พร้อมร่วมมือกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในการให้ความช่วยเหลือลูกค้าเพื่อเพิ่มสภาพคล่องและฟื้นฟูธุรกิจ โดยเตรียมวงเงินสินเชื่อกว่า 15,000 ล้านบาท คาดว่าจะช่วยเหลือลูกค้ากว่า 10,000 ราย และเน้นช่วยเหลือกลุ่มลูกค้าที่ได้รับผลกระทบโดยตรง อาทิ ธุรกิจท่องเที่ยวและผู้ประกอบการรายย่อย
  • ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (อีไอซี) เปิดเผยว่า ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์มูลค่าส่งออกปี 64 เป็นขยายตัวในช่วง 13-15% จากเดิมที่เคยคาดไว้ที่ 8.6% เนื่องจากการส่งออกที่ฟื้นตัวเร็วกว่าคาด และแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่จะฟื้นตัวดีในช่วงครึ่งหลังของปี โดยตัวเลขการส่งออกไทยหักทองในช่วง 4 เดือนแรกขยายตัวถึง 12.8% นับเป็นการฟื้นตัวที่ดีกว่าที่เคยคาดไว้ ซึ่งจะเป็นปัจจัยสนับสนุนหลักทำให้การส่งออกไทยขยายตัวได้ โดยเฉพาะในช่วงเดือนพ.ค.-ก.ค. ที่มีปัจจัยฐานต่ำปีก่อนมาสนับสนุนเพิ่มเติม
  • ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่าปี 2565 ตั้งเป้าหมายอัตราการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 3.8% และผลิตภาพการผลิตของภาคอุตสาหกรรมเติบโตเพิ่มขึ้น 1% โดยของบประมาณจากสำนักงบประมาณ 873.0646 ล้านบาท คาดว่าจะพิจารณาร่างพ.ร.บ.ในปลายเดือนพ.ค.นี้
  • ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (26 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนมองว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปียังคงมีเสถียรภาพ ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 1/2564 ของสหรัฐในวันนี้
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นเหนือแนวต้านที่ระดับ 1,900 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (26 พ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการชะลอตัวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ นอกจากนี้ ความกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อยังเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
  • กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 สำหรับ GDP ประจำไตรมาส 1/2564 โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 6.4% ในไตรมาส 1 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 6.1% และเป็นตัวเลขการขยายตัวสูงเป็นอันดับ 2 นับตั้งแต่ไตรมาส 3/2546 หลังจากที่เติบโต 4.3% ในไตรมาส 4/2563
  • นักลงทุนจับาการเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 1/2564 (ประมาณการครั้งที่ 2) ในวันพฤหัสบดี และดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ในวันศุกร์ โดยดัชนี PCE นับเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญ
  • ข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนเม.ย. และยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย(pending home sales) เดือนเม.ย.

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 พ.ค. 64)

Tags: , ,
Back to Top