FN ทยอยนำสินค้าสารสกัดกัญชงวางขาย ก.ค.นี้ พร้อมปรับร้านต้นกล้าเป็น Community

นายเบญจ์เยี่ยม ส่งวัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอฟเอ็น แฟคตอรี่ เอ๊าท์เลท (FN) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในการพัฒนาผลิตภัณฑ์สำเร็จ (Finished product) กับ บมจ.ดีโอดี ไบโอเทค (DOD) ว่า ขณะนี้บริษัทได้ร่วมกับ COD พัฒนาผลิตภัณฑ์จากสารสกัดจากกัญชงตัวแรก คือ Facial mist ภายใต้แบรนด์ BIBURY COLN และ PRIM เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการนอน โดยสามารถฉีดบนผิวหน้า ผิวกาย เส้นผม และบนหมอนได้ วางแผนจะทดสอบตลาดในเดือน ก.ค.นี้ นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์ Body wash และ Body lotion ซึ่งจะออกจำหน่ายภายใต้แบรนด์ Mikrai ตามมาอีกด้วย

บริษัทยังจัดทำ Community สินค้ากัญชง ด้วยการใช้ร้านต้นกล้าเป็นช่องทางจำหน่ายสินค้ากัญชงของเกษตรกรหรือวิสาหกิจชุมชน รวมไปถึงช่องทางจำหน่ายทางด้านแพลตฟอร์มออนไลน์

ด้านช่องทางจำหน่ายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นแพลตฟอร์มของตัวเอง เช่น FN application ที่เปิดตัวไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา FN Facebook, FN Line add ยังมีช่องทางการขายแพลตฟอร์มอื่น เช่น Shopee, Lazada และ JD central เป็นต้น มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด สอดรับกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปในยุค New normal

ในส่วนของรายได้ในแต่ละสาขา ซึ่งต้องพึ่งพานักท่องเที่ยวเป็นหลัก ทางบริษัทมองว่าจะมีทิศทางที่ดีขึ้นหลังจากการทยอยฉีดวัคซีนได้ตามแผน น่าจะทำให้รายได้ในส่วนของสาขาปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันบริษัทได้มีการปรับขนาดพื้นที่ในสาขาให้เหลือพื้นที่การขายประมาณ 200-300 ตารางเมตรต่อสาขา สอดรับกับยอดผู้เข้าชมที่ลดลง รวมถึงเปิดให้การสั่งสินค้าล่วงหน้า ซึ่งลูกค้าสามารถนัดหมายวันและเวลาที่ต้องการเข้ามารับสินค้าได้

และยังมีการบริการแบบ DRIVE THRU ซึ่งลูกค้าไม่ต้องเดินลงจากรถ จะมีพนักงานคอยเตรียมสินค้าที่ออเดอร์เข้ามา ซึ่งเป็นการช่วยลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดโควิด-19อีกด้วย

ด้านการเพิ่มช่องทางจำหน่ายสินค้าในต่างจังหวัด ปัจจุบันมีการเข้าเยี่ยมร้านคู่ค้ากว่า 440 แห่ง ครอบคลุม 67 จังหวัด มีจำนวนคู่ค้ากว่า 30 ร้านค้า ที่มีการสั่งแบบ Repeat ออเดอร์แล้ว รวมไปถึงการมีรถทันใจสำหรับจำหน่ายและโปรโมทสินค้า ซึ่งสามารถเข้าถึงลูกค้าได้อีกช่องทางหนึ่ง

นอกจากนี้บริษัทยังมีการบริหารค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ มีการติดตั้ง Solar Rooftop แล้ว จำนวน 5 สาขา คือ หัวหิน อยุธยา ระยอง ปากช่อง และฉะเชิงเทรา เพื่อลดค่าใช้จ่ายอีกด้วย

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (02 มิ.ย. 64)

Tags: , , , , ,
Back to Top