หุ้นไทยแกว่งในกรอบตามตลาดทั่วโลกรอตัวเลขจ้างงานสหรัฐ-รับแรงหนุนหุ้นห้างค้าปลีก

SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,619.22 จุด เพิ่มขึ้น 1.67 จุด (+0.10%) มูลค่าการซื้อขายราว 45,656 87 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯเผยตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งตัวในกรอบตามตลาดหุ้นทั่วโลก ระหว่างรอติดตามตัวเลขจ้างงานของสหรัฐ ขณะที่ในประเทศราคาหุ้นกลุ่มห้างสรรพสินค้างปรับตัวขึ้นรับแผนกระจายวัคซีนโควิด มิ.ย.นี้ แนวโน้มช่วงบ่ายคาดแกว่งคล้ายช่วงเช้า แนะติดตามกลุ่มการเงินมีโอกาสฟื้นตัว ให้แนวรับ 1,615 จุด และแนวต้าน 1,625 จุด

  • ตลาดหลักทรัพย์ฯปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,619.22 จุด เพิ่มขึ้น 1.67 จุด (+0.10%) มูลค่าการซื้อขายราว 45,656 87 ล้านบาท
  • การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดช่วงเช้า โดยทำระดับสูงสุด 1,622.89 จุด และระดับต่ำสุด 1,611.89 จุด

นายสรพล วีระเมธีกุล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งตัวในกรอบตามตลาดหุ้นทั่วโลก จากนักลงทุนรอดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน พ.ค.ของสหรัฐ ในคืนนี้ หากตัวเลขออกมาสูงอย่างมีนัยสำคัญ อาจส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond Yield) สหรัฐปรับตัวขึ้น

ขณะที่ในประเทศเช้านี้ราคาหุ้นกลุ่มห้างสรรพสินค้าก็พากันปรับตัวขึ้น เช่น CPN,PLAT,CRC รวมถึงหุ้นโรงภาพยนต์ด้วย จากแผนการกระจายวัคซีนโควิด-19 ในเดือน มิ.ย.จำนวน 6 ล้านโดสจากแอสตร้าเซนเนก้า จึงส่งผลดีต่อหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากการเปิดประเทศในระยะสั้น รวมไปถึงหุ้นรถไฟฟ้าคาดว่าจะได้รับผลดีในระยะถัดไป

แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายสรพล กล่าวว่า ตลาดฯ น่าจะยังแกว่งตัวในกรอบเช่นเดียวกันช่วงเช้า โดยให้ติดตามหุ้นกลุ่มการเงิน เช่น MTC, SAWAD จากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจำนำทะเบียนรถส่งผลกระทบต่อธุรกิจค่อนข้างน้อย จึงมีโอกาสฟื้นตัวขึ้น ให้แนวรับ 1,615 จุด ส่วนแนวต้าน 1,625 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,364.96 ล้านบาท ปิดที่ 119.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,959.04 ล้านบาท ปิดที่ 41.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท

RCL มูลค่าการซื้อขาย 1,136.04 ล้านบาท ปิดที่ 57.50 บาท ลดลง 0.75 บาท

SUPER มูลค่าการซื้อขาย 885.47 ล้านบาท ปิดที่ 1.03 บาท ลดลง 0.03 บาท

CPN มูลค่าการซื้อขาย 769.56 ล้านบาท ปิดที่ 53.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 มิ.ย. 64)

Tags: , , ,
Back to Top