หุ้นไทยปิดเช้าบวก 9.75 จุด รับ Sentiment บวกจากกระจายฉีดวัคซีนโควิดเป็นวันแรก

SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,621.28 จุด เพิ่มขึ้น 9.75 จุด (+0.60%) มูลค่าการซื้อขายราว 49,932 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯเผยตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับขึ้นรับ Sentiment บวกจากฉีดวัคซีนโควิด-19 ในประเทศเป็นวันแรก แต่ยังต้องดูความต่อเนื่องของการฉีดวัคซีนด้วย ทำให้เป็นความคาดหวังการเปิดเมืองปลายปีนี้ ด้านตลาดภูมิภาคเช้านี้แกว่งบวก-ลบ ต่างจับตาตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐมากขึ้นหลังเริ่มพูดกันถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยกันมากขึ้น บ่ายนี้ตลาดฯคงจะแกว่ง Sideway up ในกรอบแนวรับ 1,600-1,610 แนวต้าน 1,625 จุด

ตลาดหลักทรัพย์ฯปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,621.28 จุด เพิ่มขึ้น 9.75 จุด (+0.60%) มูลค่าการซื้อขายราว 49,932 ล้านบาท

การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดช่วงเช้า โดยทำระดับสูงสุด 1,625.56 จุด และระดับต่ำสุด 1,616.97 จุด

น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวขึ้น รับ Sentiment บวกจากการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในประเทศเป็นวันแรก ซึ่งช่วยหนุนตลาดฯได้ในระยะสั้นในระดับหนึ่ง แต่ก็ยังต้องดูความต่อเนื่องของการฉีดวัคซีนด้วย ทำให้เปีนความคาดหวังการเปิดเมืองในช่วงปลายปีนี้ อีกทั้งภูเก็ตก็จะเปิดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาในไทยได้ในวันที่ 1 ก.ค.นี้แล้ว

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ ซึ่งปัจจัยนอกประเทศจะต้องจับตาตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯมากขึ้นหลังจากที่เริ่มมีการพูดถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยกันมากขึ้น และนางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐก็ยังออกมาพูดว่า อัตราดอกเบี้ยปรับตัวขึ้นเล็กน้อย ก็อาจจะเป็นผลดี

อย่างไรก็ดี ให้ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐที่จะออกมาในวันพฤหัสนี้ และจับตาทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) และการชะลอทำโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ของสหรัฐฯด้วยว่าจะเกิดขึ้นเร็วกว่าคาดหรือไม่ รวมถึงรอติดตามการประชุมเฟดในช่วงกลางเดือนนี้

แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ น.ส.ธีรดา กล่าวว่า ดัชนีฯสามารถยืนเหนือ 1,600 จุด ได้ ระยะสั้นจึงดูดี และมีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นได้ แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับความต่อเนื่องของการฉีดวัคซีนโควิด-19 ด้วย ซึ่งก็มองว่าตลาดฯคงจะแกว่ง Sideway up ในกรอบ โดยมีแนวรับ 1,600-1,610 จุด ส่วนแนวต้าน 1,625 จุด

 

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

  • KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,362.41 ล้านบาท ปิดที่ 120.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท
  • OR มูลค่าการซื้อขาย 1,569.41 ล้านบาท ปิดที่ 31.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
  • BANPU มูลค่าการซื้อขาย 1,537.39 ล้านบาท ปิดที่ 14.00 บาท ลดลง 0.30 บาท
  • PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,301.77 ล้านบาท ปิดที่ 41.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
  • SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,281.06 ล้านบาท ปิดที่ 102.00 บาท ลดลง 1.50 บาท

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 มิ.ย. 64)

Tags: , , , ,
Back to Top